Robinson Ultimate Watch Fair 2023 งานมหกรรมนาฬิกาที่ยกทัพแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกว่า 30 แบรนด์จากกลุ่มลักชูรี กลุ่มแฟชัน ไปจนถึงสมาร์ทวอทช์
พาชม 9 เรือนเวลาไฮไลต์จากงาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2023 งานมหกรรมนาฬิกาที่ยกทัพแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกว่า 30 แบรนด์จากกลุ่มลักชูรี กลุ่มแฟชัน ไปจนถึงสมาร์ทวอทช์ ซึ่งมีทั้งนาฬิกาคอลเลกชันใหม่ล่าสุด คอลเลกชันพิเศษ มาให้คนรักนาฬิกาได้ชอปกัน พร้อมข้อเสนอและโปรโมชั่นที่น่าสนใจภายในงานเท่านั้น
เริ่มกันที่กลุ่มลักชูรีที่ประกอบด้วย Grand Seiko Evolution 9 Collection SLGA015 เผยแรงบันดาลใจของธรรมชาติผ่านหน้าปัดสีดำลายคลื่นแห่งกระแสน้ำอันทรงพลัง “”คุโรชิโอะ”” แห่งทะเลญี่ปุ่น ความประณีตของงานขัดแต่งตัวเรือน ที่บรรจุไว้ด้วยกลไก Spring drive ใหม่ล่าสุด 9RA5 เดินด้วยความเที่ยงตรง +- 0.5 วินาทีต่อวัน สำรองพลังงานได้ 120 ชั่วโมง
Rado True Square Automatic เรือนเวลากลุ่มลักชูรีเรือนที่ 2 อันเป็นเรือนเวลาจากตระกูล True Square นาฬิกาไฮเทคเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีชื่อเสียงของ Rado ผลิตโดยใช้ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีการฉีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว True Square มีน้ำหนักเบา มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและสวมใส่สบาย
Oris Big Crown Calibre 473 คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของ Oris ที่อ้างอิงตัวเรือนขนาด 38 มม. ของรุ่น Big Crown แต่โดดเด่นกว่าด้วยการใช้กลไกใหม่อย่าง Calibre 473 ซึ่งเป็นกลไก in-house ไขลานด้วยมือที่มีกำลังสำรอง 5 วันหรือ 120 ชั่วโมง โดยถือเป็นหนึ่งจากผลผลิตของโปรเจ็กต์ Oris Movement Creation Programme ที่เริ่มขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีจากจุดศูนย์กลาง หน้าปัดย่อยแสดงเข็มวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มชี้บอกวันที่จากจุดศูนย์กลางที่บอกวันที่แบบฉับพลัน ตัวปรับตั้งวันที่ ปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และหยุดเข็มวินาที มาพร้อมหน้าปัดสีฟ้าอมเขียว ที่มีรูปแบบคล้ายกับ Wing Of Hope และสายหนังกวางจาก Cervo Volante เพื่อแสดงถึงความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ
Frederique Constant Highlife Automatic COSC อีกหนึ่งเรือนจากกลุ่มลักชูรี และเป็นคอลเลกชันล่าสุดจาก Frederique Constant นาฬิกาเดรสวอทช์สำหรับสุภาพบุรุษเรือนนี้ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้นาน 38 ชั่วโมง ตัวเรือนและสายผลิตจากสเตนเลสสตีลคู่กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงิน พร้อมสายยางสีน้ำเงินในเซ็ทสำหรับเปลี่ยนสาย
Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date Black เผยโฉมภายใต้ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่ 45 มม. ที่ได้สัดส่วนลงตัว พร้อมทั้งความโดดเด่นของการเคลือบ ดีแอลซี (DLC) สีดำสนิท ด้วยรูปลักษณ์อันเหนือคำบรรยาย ทั้งสไตล์อันปราดเปรียวและเข้มแข็ง แต่กลับถ่ายทอดความโดดเด่นได้อย่างเหนือใคร
Mido Multifort M Chronometer เรือนเวลาที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดย COSC โดดเด่นด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเกินมาตรฐาน Calibre 80 สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริงช่วยเสริมความแม่นยำทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ดีไซน์อินเด็กซ์ทรงกลมที่มีลักษณะเฉพาะตัวด้วย Super-LumiNova สีเบจ ช่วยให้อ่านค่าได้ดีที่สุดเมื่อตัดกับพื้นหน้าปัดสีเขียวไล่เฉด พื้นผิวหน้าปัดที่ถูกออกแบบเป็นลายขัดซาตินในแนวตั้ง กันน้ำได้ลึกถึง 100 ม. พร้อมสายนาฬิกาที่ให้ความสะดวกในการเปลี่ยน เพลียงคลิกเดียวโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
นอกเหนือจากนาฬิกากลุ่มลักชูรีแล้ว ยังมีนาฬิกาในกลุ่มแฟชัน และกลุ่มสมาร์ทวอทช์ โดยมีเรือนเวลาที่น่าสนใจดังนี้
Seiko PROSPEX SPEEDTIMER Mechanical Chronograph รุ่น SRQ045J นาฬิกากลไกโครโนกราฟที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของนาฬิกาจับเวลา Seiko ออกแบบรูปทรงเหมือนนาฬิกาจับเวลาโครโนกราฟปี 1964 ที่ออกแบบสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวในปี 1964 การเคลื่อนไหวอันทรงพลัง ในนาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Seiko SPEEDTIMER รุ่นแรกในปี 1969 ที่ตอนนี้มีคาลิเบอร์ 8R46 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างยอดเยี่ยม ความสวยงาม ของโครโนกราฟรุ่นนี้เป็นการรำลึกถึงโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1972 เมื่อ Seiko ได้รับเลือกให้เป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการ เครื่องหมายสีแดงช่วยให้อ่านเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้สภาพอากาศมีหิมะเยอะ หรือมีน้ำแข็ง สำหรับนาฬิการุ่น “WINTER SPEEDTIMER” เป็นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มีจำนวนจำกัดเพียง 600 เรือนทั่วโลก
Casio G-B001MVE-9DR_LIMITED เรือนเวลาขวัญใจสายสตรีท ที่มีต้นแบบมาจาก Casio W 001 เปิดตัวในปี 1994 ซึ่งมีรูปแบบการออกแบบแบบแคปซูลที่แข็งแกร่ง ในตอนนี้ CASIO ได้นำเสนอวิวัฒนาการใหม่ของนาฬิกาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มาพร้อมโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน ภายนอกเป็นโลหะ และมีฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน นอกจากนั้น กรอบยูรีเทนแบบถอดได้ยังให้สัมผัสที่สนุกสนาน โดยมีให้เลือกระหว่างกรอบสองกรอบคือ โลหะหรือยูรีเทน รูปแบบแคปซูลที่แข็งแกร่งที่ได้รับการปรับแต่งขึ้นมาใหม่ รักษารูปแบบการออกแบบดั้งเดิมไว้ขณะที่มีลักษณะเฉพาะตัวแบบใหม่เพิ่มเข้ามา กรอบและสายนาฬิกาโปร่งแสงได้รับการรวมเอาไว้ด้วย เพื่อให้การผสมผสานการออกแบบที่ปรับแต่งได้ 12 รูปแบบ กรอบเพิ่มเติมมีแบบหล่อสองโทนสีในรูปแบบสีเหลืองและสีเขียว และสายเพิ่มเติมที่แสดงการไล่ระดับสีน้ำเงิน คันโยกแบบเลื่อนทำให้ส่วนต่างๆ เปลี่ยนได้ง่าย
GARMIN MARQ เจนเนอเรชั่นที่ 2 คือที่สุดของการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด สะท้อนทุกด้านของชีวิตอันไร้ขอบเขต ตัวตน จิตวิญญาณ และความกล้าหาญ คัดสรรทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถันเฉพาะคุณ กับนวัตกรรมที่ได้มาตรฐานจากแบรนด์ระดับโลก ก้าวไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งกว่าด้วย MARQ Golfer (Gen 2) ลักชูรีวอทช์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างจากไทเทเนี่ยมเกรด 5 เพื่อความทนทานและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Amoled ที่ดึงดูดทุกสายตาแผนที่สนามกอล์ฟมากกว่า 42,000 สนาม และการติดตามข้อมูลในเกมการแข่งขันที่ล้ำหน้าที่สุด คุณจึงสามารถยกระดับความสามารถได้สูงยิ่งขึ้น
สัมผัสเรือนเวลาจากแบรนด์ชั้นนำพร้อมโปรโมชันพิเศษ (คลิก http://bitly.ws/BTHn) ที่งาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2023 ตั้งแต่วันนี้ – 2 เม.ย. 66 ณ Center Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และช่องทางการชอปออนไลน์ของห้างทุกช่องทาง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ROBINSON
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่