เตรียมตัวเคาท์ดาวน์สู่วันสำคัญที่สุดในชีวิต กับเคล็ดลับดูแลผิวเจ้าสาวฉบับเร่งด่วน ตั้งแต่ 3 เดือนก่อนแต่งงาน สู่ 1 วันก่อนวันจริง พร้อมอัพเดทสกินแคร์สำหรับว่าที่เจ้าสาว ให้เปล่งประกายความเจิดจรัสในแบบที่เป็นคุณ
ช่วงเวลาสำคัญอย่างวันแต่งงานซึ่งเป็นวันพิเศษของผู้หญิงทุกคน แน่นอนว่าจะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมผิวก่อนที่จะถึงวันจริง ว่าที่เจ้าสาวหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรและในช่วงเวลาไหน Padthai.co มาแชร์ทริคการดูแลผิวในระยะเวลา 3 เดือนก่อนถึงวันแต่งงานว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้ผิวสวยเป๊ะในวันจริง
3 เดือนก่อนวันจริง
หาช่างแต่งหน้าและช่างผมตามสไตล์การแต่งหน้าที่ตัวเองชอบ เพราะเจ้าสาวแต่ละคนย่อมมีลักษณะบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบแต่งหน้าเป็นทุนเดิม ขณะที่บางคนไม่ค่อยแต่งหน้าและไม่ชินกับการแต่งหน้าแบบจัดเต็ม โดยช่างแต่งหน้าแต่ละคนย่อมมีสไตล์การแต่งหน้าที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง หาสไตล์ที่ใช่จะได้มั่นใจแบบไม่มีพลาด
ดังนั้นว่าที่เจ้าสาวควรเลือกช่างตามแนวบุคลิกของตนเองที่จะช่วยเสริมให้เราสวยขึ้นและทำให้เรามีความมั่นใจในวันแต่งงาน ในส่วนของช่างผม ควรคุยกับช่างแต่งหน้าให้เรียบร้อยก่อนว่ามีบริการทำผมครอบคลุมด้วยหรือไม่ หรือเราต้องติดต่อเองเพื่อป้องกันความผิดพลาดในวันแต่งหน้าจริง แต่โดยปกติช่างแต่งหน้าจะมีช่างทำผมทำงานคู่กันอยู่แล้ว เมื่อเจอช่างที่ถูกใจแล้วอย่าลืมจองคิววันเวลาให้ชัดเจน อย่าชะล่าใจว่าใกล้วันจริงค่อยจองคิว เพราะใกล้วันแต่งงาน ช่างแต่งหน้าที่เราถูกใจอาจจะคิวเต็มกันไปหมดแล้วก็ได้
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน หากใครที่คิดจะลดน้ำหนักสักเล็กน้อยเพื่อให้ใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยขึ้น ให้เริ่มเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการลดน้ำหนักต้องใช้เวลาและต้องมีการวางแผนการกินที่ชัดเจน เริ่มต้นด้วยการกินผักให้มากขึ้น กินแป้งให้น้อยลง และออกกำลังกายให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
2 เดือนก่อนวันจริง
เริ่มต้นดูแลผิวหน้าและผิวกายอย่างเข้มข้น หากต้องการขัดผิว เข้าสปา ทำทรีทเมนต์ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทาครีมกันแดดทุกวัน ว่าที่เจ้าสาวคนไหนไม่ค่อยได้ดูแลผิวต้องหันมาใส่ใจอย่างจริงจังเพื่อผิวสวยเปล่งประกายในวันแต่งงาน
ในเรื่องของเส้นผมนั้น ว่าที่เจ้าสาวควรตัดผม เล็มปลายผมที่เสีย ช่วงเวลา 6-8 อาทิตย์ก่อนถึงวันแต่งงาน แต่ว่าอย่าตัดผมจนสั้นเกินไปเพราะในวันแต่งงานนั้น หากผมสั้นจะทำให้เกล้าผมไม่สวยเท่าที่ควร ช่างทำผมอาจจะต้องใช้แฮร์พีชช่วยซึ่งแน่นอนว่าต้องมีข้อจำกัดซึ่งไม่สามารถทำให้สวยได้เท่าผมจริง
1 เดือนก่อนวันจริง
ว่าที่เจ้าสาวที่อยากทำสีผมใหม่ให้ทำในช่วงนี้ได้เลย เพราะยังมีเวลาอีก 1 เดือนสำหรับการเปลี่ยนสีผมอีกครั้งในกรณีที่ไม่พอใจในสีผมใหม่ และยังมีเวลาบำรุงผมให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องกังวลกับช่วงเวลาก่อนถึงวันสำคัญ
คุยกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผมให้เรียบร้อยในเรื่องของโทนการแต่งหน้า ทรงผมต่างๆ หรือปัญหาผิวที่ทำให้กังวลใจ เช่นปัญหาผิวมัน สิว ปัญหาเรื่องผมบาง ผมหนา รวมถึงส่งรูปสีผมใหม่และรูปชุดแต่งงานเพื่อให้ช่างแต่งหน้าและช่างผมได้เตรียมตัวก่อนถึงวันจริง
2 สัปดาห์ก่อนวันจริง
เริ่มต้นบำรุงผมอย่างจริงจัง หากใครที่ทำสีผมควรใช้แชมพูและทรีทเมนต์สูตรเฉพาะที่ช่วยรักษาสีผมเดิมให้สวยอยู่เสมอ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน ไม่ควรทำสีผมใหม่เพราะสภาพเส้นผมอาจแห้งเสียมากรวมถึงหากสีผมที่ทำออกมาไม่สวย หรือไม่เป็นที่พอใจ จะเปลี่ยนสีใหม่ก็ไม่ทัน จะทำให้เจ้าสาวหมดความมั่นใจในวันสำคัญเลยทีเดียว
บำรุงผิว เริ่มต้นมาส์กหน้าด้วยมาส์กชีทหรือสลีปปิ้งมาส์กซึ่งอาจจะทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ตามความสะดวกของเจ้าสาว ที่สำคัญคือห้ามทดลองครีมบำรุงผิวหรือทรีทเมนต์ใหม่ๆ ในช่วงนี้เด็ดขาด หากเกิดอาการแพ้จะรักษาไม่ทัน ดังนั้นให้ใช้สกินแคร์ตัวเดิมที่เคยใช้ตามปกติจะดีที่สุด
1 สัปดาห์ก่อนวันจริง
- คอนเฟิร์มวันเวลา สถานที่กับช่างแต่งหน้าและช่างผมอีกรอบ
- พยายามงดชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1 วันก่อนวันจริง
- เป็นไปได้ให้งดแต่งหน้าในวันนี้เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่หากต้องแต่งหน้าควรล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวให้สะอาดที่สุด
- สระผมโดยไม่ใส่ครีมนวดหรือทรีทเมนต์ และเป่าผมให้แห้ง
- ใช้มาส์กชีทก่อนนอนหรือใช้สลีปปิ้งมาส์กเพื่อบำรุงยามค่ำคืนอย่างล้ำลึก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ได้ไอเดียเรื่องการเตรียมผิวก่อนถึงวันแต่งงานกันไปแล้ว เชื่อว่าใกล้ถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิต ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายต่างก็เตรียมตัวบำรุงผิวกันเต็มที่ ไม่ว่าจะหาซื้อสกินแคร์ตัวใหม่ที่รีวิวต่างๆ บอกว่าดี หรือแม้แต่ไปซื้อคอร์สเสริมความงามสำหรับเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว อันที่จริงแล้วในสกินแคร์บางตัว อาจมีส่วนผสมที่จะส่งผลให้ผิวของเราเกิดอาการระคายเคือง อาการแพ้ ผด ผื่น สิวขึ้นเต็มหน้า ก็เป็นได้ และนี่คือ 3 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ว่าที่เจ้าสาวควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันผิวพัง
1. Retinol
ตัวช่วยที่พร้อมจะดูแลริ้วรอยร่องลึก รวมถึงรอยสิว แต่ในขณะเดียวกันหากว่าที่เจ้าสาวคนไหนเผลอหยิบเรตินอลมาใช้ในช่วงเวลาใกล้วันสำคัญ อาจจะต้องเสี่ยงปัญหาผิวต่างๆ ตามมา แต่ถ้าบังเอิญว่าวันนั้นรอยสิวยังคงปรากฏอยู่ แนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวลงมาหน่อยอย่างกรดซาลิไซลิกแทน หรืออาจจะมองหาสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติลดเลือนรอยสิว และริ้วรอยก็ได้เช่นกัน
2. Vitamin C
สรรพคุณของวิตามินซีที่มีต่อผิวนั้นมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ทั้งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระก็ดี ช่วยให้ผิวกระจ่างใสมากกว่าเดิมก็ดี แต่อย่างไรก็ตาม วิตามินซีบางชนิดอาจจะค่อนข้างแรงต่อผิวหน้าของเรา เผลอๆ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดง หรืออาจจะทำให้หน้าแห้งจนลอกเป็นขุยได้ ฉะนั้นใกล้วันแต่งงานเมื่อไหร่เก็บวิตามินซีเข้าลิ้นชักไปก่อน เพื่อเป็นการเซฟผิวสวยๆ ของเราไว้ให้ได้นานที่สุด
3. Glycolic Acid: AHA
กรดไกลโคลิก หรือ AHA หรือหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีว่าเป็นกรดผลไม้ ที่มีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ขจัดสิ่งสกปรกตามรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากเผลอใช้สกินแคร์ที่มีปริมาณของ AHA สูง ก็อาจทำให้ใบหน้ามีผื่นแดงหรือเกิดอาการระคายเคืองได้ หากจำเป็นต้องผลัดเซลล์ผิวจริงๆ แนะนำว่าให้ใช้กรดแลคติกที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่าแทน
8 BEST BRIDAL SKINCARE PRODUCTS
BIOLOGIQUE RECHERCHE Collagene Originel Serum เซรั่มเข้มข้นสกัดจากสัตว์และพืชทะเลลึกซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ประกอบด้วยคอลลาเจนบริสุทธิ์สูตรเฉพาะของแบรนด์ มอบความยืดหยุ่นและกระชับแก่ผิว
CLÉ DE PEAU BEAUTÉ Protective Fortifying Cream Broad Spectrum SPF 22 ครีมสูตรกลางวัน มอบความชุ่มชื้นพร้อมประสิทธิภาพป้องกันรังสียูวี ช่วยให้ลงรองพื้นได้ง่ายดาย แนบสนิทติดทนนานยิ่งขึ้น
DARPHIN Vetiver Oil Mask เจลมาส์กสูตรอ่อนโยนเป็นพิเศษ อุดมด้วยคุณค่าของน้ำมันสกัดจากหญ้าแฝก ลาเวนเดอร์ และเจอราเนียม ช่วยคืนความชุ่มชื้นและดีท็อกซ์ผิว พร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลายราวกับทำสปา
GUERLAIN Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate Serum ชะลอสัญญาณแห่งวัยด้วยอณูแคปซูล Micro-sculptor พร้อมค่อยๆ ปล่อยเนื้อสัมผัสฟลูอิดที่แสนละมุนละไมออกมาปรนนิบัติผิว
LANCER The Method Nourish Moisturizer for Normal to Combination Skin ส่วนผสมทรงพลังทั้งเปปไทด์ กรดอะมิโน เซราไมด์ คอลลาเจน และกรดไฮยาลูรอนิก พร้อมจัดการกับริ้วรอยต่างๆ และเสริมปราการรักษาความชุ่มชื้นของผิว
MURAD Quick Relief Colloidal Oatmeal Treatment ทรีทเมนต์ผสานน้ำมันสกัดจากโอ๊ต 3% อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องผิว และมีคุณสมบัติในการต่อต้านอาการระคายเคือง ลดเลือนรอยแดงได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
OSEA Ocean Eyes Hydrating Gel Eye Serum เซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาที่อุดมไปด้วยเปปไทด์ที่ช่วยลดความบวมของถุงใต้ตา และรอยคล้ำใต้ตา มอบความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมของสาหร่าย กรดไฮยาลูรอนิก และเปปไทด์
SHISEIDO Bio-Performance Advanced Super Revitalizing Moisturizer Cream มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรเข้มข้นที่จะฟื้นบำรุงผิว เสริมความแข็งแรง สร้างผิวใหม่ให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BIOLOGIQUE RECHERCHE, CLÉ DE PEAU BEAUTÉ,
DARPHIN, GUERLAIN, LANCER, MURAD, OSEA, SHISEIDO
STOCK PHOTOS: Image by marymarkevich on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่