คลีนผิวอย่างไรไม่ให้หน้าเหี่ยวหรือสิวขึ้นจนเสียเซลฟ์? จะเลือกใช้สำลีกับคลีนซิ่งวอเตอร์ หรือจะเลือกใช้คลีนซิ่งบาล์มเนื้อนุ่มเนียนละเอียดอ่อนโยน ก็ดีต่อผิวทั้งนั้นหากรู้จักวิธีเลือกและเทคนิคการใช้ที่ไม่ทำร้ายผิว
สำลีเช็ดหน้าเป็นสิ่งจำเป็นที่สาวๆ ต้องใช้เป็นประจำกันอยู่แล้วเกือบทุกคน เรียกว่าใช้ทุกวันเพราะต้องเช็ดเครื่องสำอางเพื่อใบหน้าที่สะอาดและป้องกันการเกิดสิว แล้วสาวๆ ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสำลีเช็ดหน้ามากน้อยอย่างไร ว่าใช้แบบไหนถึงจะเหมาะต่อการเช็ดผิวหน้าของเรา เพราะหากเลือกไม่ดีอาจทำร้ายผิวและก่อให้เกิดริ้วรอยโดยไม่รู้ตัว
• ใช้สำลีฝ้ายแท้
สำลีที่ทำจากฝ้ายแท้จะไม่มีสารเคมีใดมาเคลือบไว้ ปราศจากการเจือปนอื่นๆ ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าและไม่ระคายเคือง แถมยังดูดซับน้ำได้ดีกว่าด้วย
• เลือกใช้สำลีแบบแผ่น
สาวๆ ควรเลือกใช้สำลีแบบแผ่นมาทำความสะอาดผิวหน้า จะดีกว่าการใช้สำลีแบบก้อน เพราะสำลีแผ่นจะมีผิวสัมผัสที่เนียนนุ่มกว่า จึงช่วยถนอมผิวได้ดีกว่าสำลีแบบอื่น
• สำลีที่ดีต้องไม่เป็นขุย
สำลีที่เช็ดแล้วเป็นขุยซึ่งส่วนมากจะเป็นแบบก้อน เพราะมีเส้นใยที่สั้น ทำให้เวลาดึงออกมา เส้นใยมักจะขาด สำลีแบบนี้จึงเหมาะกับการเช็ดทำแผลมากกว่า เวลานำมาใช้เลยมักจะติดกับผิวหน้า สาวๆ อาจรำคาญได้
• บรรจุภัณฑ์ต้องมิดชิด
เพื่อป้องกันความสะอาด ก่อนซื้อควรสังเกตว่า สำลีถูกบรรจุมาอย่างดีหรือไม่ ซองหรือกล่องที่บรรจุมาต้องไม่ขาด กระปุกต้องไม่แตก มิเช่นนั้นสิ่งสกปรกต่างๆ จะเข้าไปดักจับอยู่ในสำลี ซึ่งเวลาเรานำมาเช็ดหน้าอาจจะสมเป็นเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดสิวได้
• วิธีใช้สำลีแผ่นเช็ดหน้าแบบไม่ทำร้ายผิว
ปัญหาผิวอย่างริ้วรอย สิวอักเสบ อาจเป็นเพราะเราใช้สำลีเช็ดผิวหน้าแรงเกินไป มาดูกันดีกว่าว่าวิธีใช้สำลีเช็ดหน้าอย่างอ่อนโยน ไม่รบกวนผิวต้องทำอย่างไรบ้าง
• เช็ดมาสคาร่าอย่างไรไม่ให้เกิดริ้วรอย
อยากปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนเด้งใจจะขาด แต่พอนึกถึงขั้นตอนเช็ดมาสคาร่าแล้วก็ถอดใจเพราะกลัวจะเช็ดออกยาก ต้องถูแรงๆ จนเกิดริ้วรอยรอบดวงตา ยิ่งถ้าเป็นมาสคาร่าแบบกันน้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขอให้ลองวิธีนี้ แค่พับสำลีเพียงครึ่งแผ่น แล้วใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ที่เราใช้อยู่แล้วตามปกติหยดลงบนแผ่นสำลี จากนั้นให้เอาสำลีไปวางไว้ที่บริเวณขนตาล่าง กดไว้ให้แนบแล้วพับอีกครึ่งขึ้นมาเพื่อให้สำลีทับขนตาบน การทำแบบนี้จะทำให้ตัวคลีนซิ่งทำความสะอาดขนตาได้ง่ายขึ้น จากนั้นให้กดค้างไว้สักพัก แล้วลูบออกเบาๆ ด้านข้าง ตามด้วยการทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ของใบหน้า เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเช็ดมาสคาร่าและสิ่งสกปรกออกจากขนตาและรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนแล้ว
• เติมน้ำให้ผิวรอบดวงตา
เมื่อทำความสะอาดผิวเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปเราจะใช้ประโยชน์จากสำลีให้ครบสูตร คือการใช้สำลีมาทำเป็นอายมาส์ก มาส์กใต้ตาให้ชุ่มชื้น ลดตาดำ ตาคล้ำ ป้องกันการเกิดริ้วรอย แถมลดอาการปวดเมื่อยล้าดวงตาได้ด้วย วิธีการอาจจะยุ่งยากนิดนึงเพราะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติโดยคั้นน้ำแตงกวา จากนั้นใช้สำลีแผ่นชุบน้ำแตงกวามามาส์กบริเวณใต้ตา เพียงแค่นี้ตาคล้ำ ตาแพนด้าก็ไม่มากวนใจแล้ว
• มาส์กผิว กักเก็บความชุ่มชื้น
ขั้นตอนสุดท้ายเราจะใช้ประโยชน์จากสำลีเช็ดหน้ามากหน่อย โดยเริ่มแรกเราจะใช้สำลีเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนเบาๆ จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำตบให้ชุ่มแผ่น นำมามาส์กหน้าทิ้งไว้สัก 10-15 นาที ขั้นตอนนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนานยิ่งขึ้น ลดการสูญเสียน้ำของผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยอีกด้วย ส่วนสำหรับใครที่เป็นสิวแนะนำให้ใช้น้ำตบสูตรสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ มาส์กไปเลยทั้งแบบนี้เพราะประสิทธิภาพของน้ำตบจะได้ซึมสู่ผิวได้ดีขึ้นนั่นเอง
หากสาวๆ คนไหนแอบกังวลใจเบาๆ ว่าการใช้สำลีนั้นจะรบกวนผิวจนเกินไป โดยเฉพาะขั้นตอนทำความสะอาดผิว แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งบาล์มเพื่อเคลียร์ปัญหานี้ได้แบบตรงจุด เพราะคลีนซิ่งบาล์มมีประสิทธิภาพในการสลายเมคอัพและสิ่งสกปรกเนื่องจากผสมผสานน้ำมันธรรมชาติในสูตร น้ำมันธรรมชาติเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกเพื่อละลายน้ำมันส่วนเกินบนผิว ซึ่งน้ำมันส่วนเกินนั้นอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ หลังจากล้างเครื่องสำอางออกแล้วรู้สึกว่าผิวได้รับการเติมเต็มความชุ่มชื้น และที่สำคัญที่สุดคือสะอาดหมดจด คลีนซิ่งบาล์มจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการดูแลผิวประจำวัน
เลือกคลีนซิ่งบาล์มอย่างไรให้คลีนผิวได้เริ่ดและถนอมผิวไปพร้อมๆ กัน
1. เลือกตามสภาพผิว
คลีนซิ่งบาล์มสามารถใช้ได้ดีกับทุกสภาพผิว แต่เหมาะเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแห้ง เมื่อเลือกคลีนซิ่งบาล์ม ต้องแน่ใจว่าเป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา หากมีผิวมัน การใช้คลีนซิ่งบาล์มอาจช่วยป้องกันไม่ให้ผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป หากมีผิวแพ้ง่ายให้ใช้บาล์มที่มีส่วนผสมเรียบง่าย หรือจะลองตรวจสอบฉลากและให้แน่ใจว่าบาล์มที่เลือกไม่มีน้ำหอม, แอลกอฮอล์ หรือ AHA
2. เลือกจากส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหน้า
• Vitamin C: ต่อต้านอนุมูลอิสระ ผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส
การใช้คลีนซิ่งบาล์มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี สามารถช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสได้ เนื่องจากวิตามินซี มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เมื่อซึมซาบเข้าสู่ผิวจึงช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวหน้ากลับมาใส เนียนนุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ได้ดีเช่นกัน
• Moisturizer: คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
คลีนซิ่งบาล์มบางสูตรถูกพัฒนามาให้ทำหน้าที่เป็นโฟมล้างหน้าไปด้วยในตัว ช่วยให้สาวๆ ประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงที่ใบหน้าจะถูกเสียดสีมากเกินไปจากการล้างหน้าหลายขั้นตอน สำหรับใครที่เลือกสูตรนี้หรือต้องการการบำรุงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่หลังใช้แล้วมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฟิล์มเคลือบผิวหน้า เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าได้นานขึ้น
• Collagen: ลดริ้วรอย ผิวนุ่มสวย ดูอ่อนกว่าวัย
ในผิวของเรานั้นประกอบด้วยคอลลาเจนมากถึง 75% แต่เมื่อเราอายุ 20 ปีขึ้นไป คอลลาเจนที่ผลิตได้อาจถูกทำลายด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมน, ความเครียด, รังสี UV ที่แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนัง, การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงอายุที่มากขึ้นทุกปี
การเลือกคลีนซิ่งบาล์มที่มีคอลลาเจนจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ เนื่องจากการใช้คลีนซิ่งบาล์มจะทำให้คอลลาเจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านการทานอาหารเสริม จึงช่วยบำรุงผิวและลดริ้วรอยได้เร็วกว่า
• Hypoallergenic: อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ระคายเคือง
เนื่องจากสภาพผิวแพ้ง่ายทำให้ไวต่อสารเคมีต่างๆ สาวๆ คนไหนที่มีสภาพผิวบอบบางจึงควรเลือกใช้คลีนซิ่งบาล์มที่ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ Hypoallergenic ที่ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากล หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
โดยส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนั้น มักจะไม่ใส่สารเคมี เช่น น้ำหอม, สารกันเสีย, แอลกอฮอล์ หรือสีสังเคราะห์ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบางแบรนด์จะระบุว่าเป็น Hypoallergenic ก็อาจใส่สารบางตัวมาได้ แนะนำให้ตรวจสอบส่วนผสมก่อนใช้ นอกจากนี้ หากใช้แล้วเกิดอาการคันหรือแดงลอก ควรหยุดใช้ทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BOBBI BROWN, CHANTECAILLE, CLINIQUE, OMOROVICZA, SISLEY, SUNDAY RILEY
STOCK PHOTOS: Image by Racool_studio on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่