ไม่ใช่หมอกแต่เป็นฝุ่น! ปลายปีเช่นนี้ ฝุ่น PM 2.5 ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพทางเดินหายใจ แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพความงามให้สาวๆ หลายคนต้องปวดหัวเพราะปัญหาขอบตาดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ แต่อย่าเพิ่งนอยด์ไป เรามีวิธีดูแลผิวรอบดวงตาให้กลับมาสดใส พร้อมอายครีมสุดเริ่ดอีกเพียบ!
ใกล้หน้าหนาวทีไร ฝุ่น PM 2.5 เป็นต้องมาต้อนรับพร้อมกันทุกที ปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ เพราะด้วยความที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบและรุนแรงขึ้นได้
ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดจิ๋วมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งมีขนาด “เล็กกว่าเส้นผมของคนเรา” และมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง หอบหืด และอาจทำให้การทำงานของปอดเสื่อมลง และยังเสี่ยงต่อมะเร็งปอดอีกด้วย
เตรียมรับมือกับ PM2.5 อย่างไรดี?
- สวมหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 เพื่อป้องกัน
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคาร
- เตรียมยาให้พร้อม สำหรับใครที่มีอาการภูมิแพ้ แพ้ง่าย ควรเตรียมยาแก้แพ้ติดตัวไว้เสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง ช่วยล้างสารพิษในกระแสเลือด
- หากเกิดผิดความปกติกับร่างกาย เช่น แน่นหน้าอก มีอาการแพ้ ควรรีบพบแพทย์
สังเกตอาการสัญญาณเตือนจากการแพ้ฝุ่น PM 2.5 ได้ดังนี้
- ผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มผื่นนูนแดง กระจายบนผิวหนัง
- ดวงตา ตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำ มีสีคล้ำขึ้น
- ทางเดินหายใจ คัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกแบบใสๆ
เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง สาวๆ ควรสวมหน้ากากอนามัย N95 เมื่อต้องอยู่ในที่โล่งแจ้ง และหากเกิดอาการแสบคอ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด หรือมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที
อันที่จริงแล้ว โรคภูมิแพ้จากฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างโรคทางเดินหายใจเพียงอย่างเดียว แต่สามารถส่งผลต่อสุขภาพความงามได้เช่นกัน เช่นเดียวกับปัญหา “ขอบตาดำ” ปัญหาความงามที่ไม่เข้าใครออกใคร บางคนพยายามนอนเร็วขึ้น บางคนก็พยายามหาอายครีมดีๆ แพงๆ มาทาหวังว่าจะดีขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล นั่นเพราะจริงๆ แล้วสาเหตุขอบตาดําที่เราเป็นอยู่นั้นเกิดจาก “โรคภูมิแพ้” ไม่ได้เกิดจากการนอนดึกแต่อย่างใด Padthai.co จะพาทุกคนไปรู้จักภาวะขอบตาดำที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ พร้อมวิธีรักษาแบบตรงจุดกัน
ขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้ (Allergic Shiner) คือ การที่ผิวบริเวณใต้ดวงตามีสีดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ โดยหลักๆ แล้วมักจะเกิดจากภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือภูมิแพ้ตา ผู้ป่วยภูมิแพ้จมูกอักเสบมักจะมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก และจาม ผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง เยื่อบุจมูกมักจะบวม การบวมจะทำให้เลือดดำไหลผ่านได้ยาก เลือดดำจึงคั่งอยู่บริเวณใต้ตาล่างทำให้ผิวบริเวณใต้ตาล่างดำนั่นเอง
ส่วนผู้ป่วยภูมิแพ้ตา จะมีอาการคันตา เคืองตา อาการเหล่านี้ทำให้เผลอขยี้ตาแรงๆ ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตาดำคล้ำ หรือมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้น
แน่นอนว่าอาการของขอบตาดำจากภูมิแพ้ อาการสำคัญที่สังเกตได้อย่างชัดเจนคือ ผิวบริเวณรอบดวงตาจะมีสีดำคล้ำ อีกทั้งยังมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก และจามร่วมด้วย หรือใครที่เป็นภูมิแพ้ตา ก็จะมีอาการคันตา เคืองตา และแสบตาร่วมด้วยเช่นกัน
แต่สำหรับสาวๆ ที่ขอบตาดำเฉยๆ ไม่ได้มีอาการของภูมิแพ้ แสดงว่าเราไม่ได้เป็น “ขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้” แต่แค่นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือดื่มน้ำน้อยเฉยๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ อาการขอบตาดำก็จะดีขึ้นเอง
7 วิธีรักษาอาการขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้
1. พบแพทย์เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ให้ดีขึ้น อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าขอบตาดํานี้ ต้นเหตุนั้นเกิดจากโรคภูมิแพ้ ฉะนั้นการไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ให้ดีขึ้นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
2. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และฝุ่นละออง จะยิ่งทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง ซึ่งบางคนอาจจะแพ้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเช็กตัวเองอยู่เสมอว่าเราแพ้อะไรบ้าง
3. พยายามอย่านอนดึก และพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนดึกและการพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายของเราอ่อนแอ ทำให้อาการภูมิแพ้ที่เป็นอยู่แย่ลง
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น และเมื่ออาการภูมิแพ้ดีขึ้นขอบตาที่ดำก็จะค่อยๆ จางลง
5. ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เมื่อร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เซลล์ผิวก็จะกระจ่างใส ส่งผลให้รอยดำคล้ำใต้ตาจางลง
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา เช่น การแกะ เกา ขยี้ตาแรงๆ เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผิวบริเวณดวงตาระคายเคือง ดำคล้ำขึ้น และอาจมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นอีกด้วย
7. ทาอายครีมที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน เม็ดสีเมลานินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขอบตาดำได้ ฉะนั้นควรหาอายครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีมาอย่าง วิตามินซี, อาร์บูติน หรือ ไนอะซินาไมด์ มาใช้ควบคู่ไปด้วย
1. CHANTECAILLE Nano Gold Energizing Eye Serum ทรีทเมนต์สำหรับดวงตาที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวบริเวณรอบดวงตาที่แห้ง, มีริ้วรอย, ขาดความชุ่มชื้น และหมองคล้ำ ให้กลับมาสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
2. DERMALOGICA Biolumin C Eye Serum เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นสำหรับผิวรอบดวงตา คืนความสดใส กระชับ เรียบเนียน พร้อมลดเลือนริ้วรอยอันเป็นสัญญาณแห่งวัย ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดวงตา ความเครียด และมลภาวะ เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมซาบลงสู่ผิวอย่างรวดเร็วจนสังเกตได้ถึงผิวที่ยกกระชับกระจ่างใส
3. DR. DENNIS GROSS Vitamin C + Lactic Firm & Bright Eye Treatment ส่วนผสมเข้มข้นจากกรดแอล-แอสคอร์บิกผสมผสานกับกรดแลคติค ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย แก้ไขปัญหาจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ความยืดหยุ่นผิว และความหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตาได้อย่างตรงจุด
4. FIRST AID BEAUTY Eye Duty Niacinamide Brightening Cream มาพร้อมสารแอกทีฟต่างๆ ที่ได้จากธรรมชาติ เพิ่มพลังงานให้เซลล์ผิวแบบผสมผสานด้วยพลังจากวิตามินซีและไนอะซินาไมด์ที่ให้รอบดวงตาดูสุขภาพดีและกระจ่างใสมากขึ้น
5. KORA ORGANICS Berry Bright Vitamin C Eye Cream มอบความกระจ่างใส และเติมสารบำรุงให้ผิวด้วยพลังจากวิตามินซีที่จะจัดการกับปัญหาริ้วรอย ให้ผิวรอบดวงตากระชับ อ่อนเยาว์ พร้อมด้วยสารสกัดแบบออร์แกนิกทั้ง Kangaroo Paw Flower, Kakadu Plum, Cloudberry และ Red Ginseng ที่จะช่วยเติมสารต้านอนุมูลอิสระแก่ผิว เพิ่มความกระจ่างใสและปรับริ้วรอยรอบดวงตาให้อ่อนเยาว์
6. MURAD Vita-C Eyes Dark Circle Corrector ครีมบำรุงรอบดวงตาที่ช่วยกระชับถุงใต้ตา รวมถึงปรับสีผิวบริเวณใต้ตาให้กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังปกป้องผิวรอบดวงตาจากริ้วรอยได้อย่างล้ำลึก
7. NATURA BISSÉ C+C Vitamin Eye Cream อายครีมเนื้อเข้มข้นมาพร้อมสารสกัดจากขิง ส้มยูสุ และ Active Vital Complex ผสานเป็นหนึ่งเข้ากับไนอะซินาไมด์ เพื่อเผยใต้ตาที่ดูสดใสสุขภาพดี
8. PERRICONE MD CCC+ Ferulic Brightening Under-Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตาผสานวิตามินซี, วิตามินอี และ Ferulic Acid 2% อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมด้วยส่วนผสมที่ช่วยลดรอยบวม, รอยคล้ำ และริ้วรอยรอบดวงตา
9. STRIVECTIN Super-C Dark Circle Eye Serum อายครีมสูตรเข้มข้น อัดแน่นด้วยวิตามินซี ต่อสู้กับสัญญาณแห่งริ้วรอยต่างๆ ลดรอยคล้ำและช่วยให้ลงคอนซีลเลอร์ได้ติดทนนานมากขึ้น
10. SUNDAY RILEY 5 Stars Retinoid + Niacinamide Eye Serum สัมผัสกับรอบดวงตาที่ดูยกกระชับ เรียบเนียน และอิ่มฟูมากขึ้น ด้วยส่วนผสมทั้งเรตินอล บากูชิล และไนอะซินาไมด์ ที่จะทำงานแบบสอดประสาน เพื่อเสริมโปรตีนให้แก่ผิว มอบความเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ สามารถใช้เป็นอายไพรเมอร์ก่อนแต่งตาก็ได้
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CHANTECAILLE, DERMALOGICA, DR.DENNIS GROSS, FIRST AID BEAUTY, KORA ORGANICS, MURAD, NATURA BISSÉ, PERRICONE MD, STRIVECTIN, SUNDAY RILEY
STOCK PHOTOS: Image by Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
