ผู้ชายชอบอธิบายหลายสิ่งให้ฉันฟัง : Mansplaining และความอดทนของเหล่าคุณผู้หญิงในโลกปิตาธิปไตยจากซีรีส์มาร์เวลเรื่องใหม่ She-Hulk: ทนายสายลุย
หมายเหตุ: บทความ Mansplaining และการจัดการความโกรธของเหล่าคุณผู้หญิงในโลกปิตาธิปไตย จากซีรีส์ She-Hulk อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในซีรีส์ (สปอยล์)
นับเป็นการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จด้วยกระแสตอบรับที่น่าพอใจไม่น้อย สำหรับซีรีส์ She-Hulk: Attorney at Law ชี-ฮัลค์: ทนายสายลุย ออริจินัลดิสนีย์พลัสเรื่องใหม่ล่าสุดจาก Marvel Studios ที่เพิ่งจะฉายตอนแรกไปหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผ่านฝีมือของเจสซิกา เกา (Jessica Gao) มือเขียนบทสาวชาวอเมริกันจาก Rick and Morty (2013) และ Kung Fu Panda Legends of Awesomeness: กังฟูแพนด้า ตำนานปรมาจารย์สุโค่ย! (2022) มานำทัพหัวหน้าทีมเขียนบทเล่าเรื่องราวสุดปั่นป่วนนี้
โดยเรื่องราวใน ชี-ฮัลค์ จะพาผู้ชมไปทำความรู้จักกับเจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ส (รับบทโดยทาเทียนา มาสลานี / Tatiana Maslany) ทนายความสาววัย 30 ปี ผู้เชี่ยวชาญคดีความเกี่ยวกับเหล่าฮีโร่และผู้มีพลังเหนือมนุษย์ เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของบรูซ แบนเนอร์ (รับบทโดยมาร์ค รัฟฟาโล / Mark Ruffalo) นักฟิสิกส์ชื่อดังที่ถูกทดลองด้วยรังสีแกมม่าในโครงการ Super Soldier ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนทำให้เขาสามารถกลายร่างเป็นฮัลค์ (Hulk) สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์สีเขียวที่มาพร้อมความแข็งแกร่งระดับทำลายล้างเมื่อรู้สึกโกรธหรือตกอยู่ในอันตราย
การที่เจนนิเฟอร์ได้ค้นพบความจริงที่น่าขนลุกขนพองว่าเธอเองก็สามารถแปลงร่างเป็นชี-ฮัลค์ หรือมนุษย์เขียวเพศหญิงที่มีพลังมหาศาลได้ เช่นเดียวกับญาติสนิทของเธอเพราะบังเอิญได้รับเลือดที่ปนกับพิษของรังสีแกมม่าจากฮัลค์ จึงนำพาเรื่องราวปั่นป่วนมากมายมาให้ เพราะเธอโหยหาการเป็นทนายความธรรมดามากกว่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่เพราะการกลายร่างเป็นมนุษย์เขียวของเธอนั้นไม่ได้ทำให้ความสวยหรือรูปร่างของเธอเปลี่ยนแปลงไป ความวุ่นวายของมนุษย์เขียวสาวจึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอกลายเป็นสาวป็อปที่คนรอบข้างต่างก็ให้ความสนใจ
ซีรีส์ในตอนแรกปูเรื่องราวที่มาที่ไปให้ผู้ชมเข้าใจสถานการณ์และจุดเริ่มต้นของเรื่องให้ผู้ชมเข้าใจได้อย่างง่ายดายผ่านการดำเนินเรื่องที่กระชับ รวดเร็ว และตรงประเด็น โดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกมุกจิกกัดความเป็นชายอันเป็นพิษ (Toxic Masculinity) เอาไว้เป็นระยะ ทั้งการที่เจนมักจะโดนเพื่อนทนายด้วยกันพยายามจะเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเธอ โดยให้เหตุผลว่าหากเป็นทนายผู้ชายอย่างเขาพูด การกล่าวปิดคดีจะดูน่าเชื่อถือว่า เพราะเธอ ‘หนักแน่น’ ไม่พอ
หรือในฉากที่เธอฟื้นคืนสติหลังจากการแปลงร่างครั้งแรก และเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในผับแถวๆ นั้นด้วยสภาพยับเยิน แต่ก็ยังไม่วายต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชายที่เข้ามาแทะโลม และพยายามจะทำความรู้จักกับเธอทั้งที่เธอก็ยืนกรานว่าเธอมีแฟนแล้วและแค่กำลังรอให้บรูซซึ่งเธออ้างว่าเป็นแฟนมารับ ต่างกันกับการเผชิญหน้ากับกลุ่มสาวๆ ในห้องน้ำ ที่แทบจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือเธอทันทีในแรกเห็น เพราะคิดว่าเจนถูกแฟนทำร้ายร่างกายมา
ซีรีส์หยิบเอาชีวิตประจำวันที่ผู้หญิงหลายๆ คนต้องพบเจอร่วมกัน มาถ่ายทอดลงในซีรีส์อย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรมชาติ แต่ก็แฝงไปด้วยการจิกกัดที่เจ็บแสบ อย่างการที่แก๊งสาวๆ ในห้องน้ำที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือเจนเห็นเธอในสภาพที่บาดเจ็บ และคิดว่าสาเหตุซึ่งเป็นความเป็นไปได้แรกสุดมาจากผู้ชาย
รวมถึงเหตุการณ์หลังจากบรูซพาตัวเจนมาที่เกาะส่วนตัวและช่วยสอนเธอเกี่ยวกับการเป็นเดอะ ฮัลค์ เพื่อควบคุมพลังและอารมณ์โกรธเพื่อไม่ให้เธอไปทำร้ายใครในชีวิตจริง แต่เมื่อเจนทำทุกอย่างออกมาได้ดี เขาก็ไม่ยอมรับและยังคงยืนกรานว่าเธอต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะกว่าเขาจะจัดการอารมณ์และควบคุมพลังของตนเองในร่างเดอะ ฮัลค์ได้ ก็ใช้เวลาไปนานถึง 15 ปีเต็ม แถมยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บรูซจึงเป็นห่วงและคิดไปเองว่าเป็นไปไม่ได้ที่เจนจะสามารถจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าตนเองที่มีประสบการณ์มาก่อน
ฉากคลาสเรียนวิชา เดอะฮัลค์101 ของบรูซจึงสะท้อนให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนของสถานการณ์ที่เรียกว่า Mansplaining ซึ่งเป็นคำสมาสที่มาจากคำว่า Man (ผู้ชาย) และ Splaining (การอธิบายอะไรสักอย่างด้วยความคิดว่าตนเองรู้มากกว่าหรือเหนือกว่า) โดยหมายถึงการที่ผู้ชายอธิบายอะไรบางอย่าง โดยไม่ได้ตระหนักว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ได้รับคำอธิบายรับรู้หรือเข้าใจถึงสิ่งนั้นอยู่แล้ว และอาจจะรู้มากกว่าที่เหล่าคุณผู้ชายกำลังโอ้อวดก็ได้
ซึ่งแน่นอนว่าคำนี้ไม่ได้เพิ่งจะถูกคิดขึ้น แต่เป็นคำที่มีประวัติศาสตร์ทางเพศที่ยาวนาน ทั้งการถูกกล่าวถึงแนวคิดในงานเขียนต่างๆ เช่นในหนังสือ ผู้ชายชอบอธิบายหลายสิ่งให้ฉันฟัง (Men Explain Things to Me) โดยรีเบคกา โซลนิต (Rebecca Solnit) และได้รับเลือกจากนิวยอร์กไทม์ส ให้เป็นคำแห่งปี (Word of the Year) ในปีค.ศ. 2010 เพื่อสะท้อนถึงอุปนิสัยของคุณผู้ชายบางกลุ่มที่มักจะคิดและเข้าใจไปเองว่าตนเอง ‘รู้ดี’ กว่า
แม้พฤติกรรมของบรูซใน ชี-ฮัลค์ ตอนแรกที่ออกฉายไปแล้วจะเป็นการ Mansplaining โดยไม่ตั้งใจและมีพื้นฐานมาจากความห่วงใยที่เขามีต่อญาติสนิทอย่างเจน แต่สถานการณ์ที่อิหลักอิเหลื่อและน่าลำบากใจนี้ก็สะท้อนสถานการณ์ที่เหล่าคุณผู้หญิงต้องเจอในชีวิตประจำวันออกมาได้อย่างดี
เหมือนวลีที่เธอตอบบรูซกลับไปว่า “ฉันต้องควบคุมความโกรธทุกวันอยู่แล้วบรูซ เช่น ตอนที่โดนจิ๊กโก๋แซวหรือมีผู้ชายห่วยๆ มาสอนงานที่ฉันถนัด เพราะถ้าไม่ทำฉันจะโดนตราหน้าว่าใช้แต่อารมณ์ คุยด้วยยาก หรือไม่ก็ถูกฆ่า” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์เพศหญิงไม่ว่าจะชาติใดในโลก ก็ต่างต้องเผชิญหน้ากับ Mansplaining และความรุนแรงจาก Power Dynamic ที่แตกต่างกันมาโดยตลอด
ความน่าสนใจนี้เองทำให้ซีรีส์ชุด ชี-ฮัลค์: ทนายสายลุย ยิ่งน่าติดตามเป็นทวีคูณ ว่าเมื่อเธอยืนกรานจะกลับไปใช้ชีวิตทนายซึ่งเป็นสายอาชีพที่เธอรัก เธอจะต้องพบเจอกับสถานการณ์หรือเรื่องราวอะไรที่ทำให้เธอต้องกลายร่างเป็นทนายสาวตัวเขียว โดยซีรีส์ชุดนี้ได้นักแสดงสาวทาเทียนา มาสลานี มารับบทนำ หลังจากผลงานในซีรีส์ Orphan Black (2013–2017) ที่เธอแสดงนำกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย และทำให้เธอคว้ารางวัลเอมมี่ส์มาได้เป็นคนแรกในฐานะนักแสดงชาวแคนาดาจากซีรีส์สัญชาติแคนาดา
ซึ่งนี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยังสานต่อเรื่องความเท่าเทียมทางเพศผ่านตัวละครเพื่อนหญิงพลังหญิง ที่ค่ายมาร์เวลทะยอยนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยซีรีส์ชุดนี้จะมีความยาวทั้งหมด 9 ตอนและฉายตอนใหม่บน Disney+ และ Disney+ Hotstar ในทุกวันพฤหัส ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์และซีรีส์จากบ้านมาร์เวล อย่าลืมไปติดตาม!
ชี-ฮัลค์ เป็นตัวละครซุเปอร์ฮีโรของมาร์เวลคอมิกส์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยสแตน ลี (Stan Lee) และจอห์น บูสเซมา (John Buscema) นักวาดคู่ใจประจำค่ายมาร์เวลคอมิกส์ โดยตัวละครเจนนิเฟอร์ หรือชี-ฮัลค์ ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน Savage She-Hulk เล่ม 1 ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.1980
เจนนิเฟอร์เป็นลูกพี่ลูกน้องของบรูซ แบนเนอร์ และเคยได้รับการถ่ายเลือดฉุกเฉินจากเขาตอนที่เธอได้รับบาดเจ็บและต้องการเลือดกะทันหัน และนั่นทำให้เธอได้รับสืบทอดพลังพิเศษในการกลายร่างเป็นมนุษย์เขียวมาจากแบนเนอร์โดยไม่ตั้งใจ โดยภายหลังเธอจะเข้ามามีส่วนสำคัญในทีมอเวนเจอร์ส แฟนทาสติกโฟร์ (Fantastic Four) รวมถึงชีลด์ (S.H.I.E.L.D)
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF DISNEY+ AND MARVEL STUDIO
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- ตัวอย่างแรกจาก Wednesday ซีรีส์เดี่ยวของเวนส์เดย์ แอดดัมส์ ลูกสาวคนโตแห่งแอดดัมส์แฟมิลี่ ภายใต้การกำกับของทิม เบอร์ตัน บน Netflix สิ้นปีนี้!
- Pink Venom แผลงฤทธิ์! Blackpink คัมแบ็กสุดปัง ทุบสถิติ 100 ล้านวิวภายในเวลาเพียง 30 ชั่วโมง นำเสนอมิวสิควีดีโอ Pink Venom พรี-ซิงเกิ้ลสุดร้อนแรงและการกลับคืนบัลลังก์อีกครั้งของราชินีผู้พาวงการK-POPไปสู่ระดับโลก
- ถักทอความทรงจำถึงคุณแม่ผู้ล่วงลับ สู่บทเพลงสุดซึ้ง วาดไว้ ซิงเกิลใหม่จากโบกี้ไลอ้อน ที่กลายเป็นซิงเกิลฮ็อทด้วยยอดวิวทะลุ 32 ล้าน
- เปิดสองเรื่องเล่าจากถ้ำหลวงใน Thirteen Lives : สิบสามชีวิต และ Thai Cave Rescue ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง สองผลงานใหม่บนสตรีมมิ่งเจ้ายักษ์ ที่สร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ภารกิจกู้ชีพนักกีฬาและโค้ชรวม 13 ชีวิตจากทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ในปีค.ศ. 2018
- รู้จักออทิสติกสเปกตรัม และมองผู้ป่วยที่มีภาวะออทิสซึมตามความเป็นจริง ผ่านตัวละคร อูยองอู ทนายสาวอัจฉริยะจากซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo