Mido เติมกิมมิคให้กับงานดีไซน์นาฬิกาสปอร์ตสองรุ่นใหม่จากคอลเลกชัน Ocean Star พร้อมถ่ายทอดผ่านไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของแบรนด์แอมบาสเดอร์ Kim Soo-Hyun
พลิกบทบาทมาแล้วมากมายหลายมิติ สำหรับแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Mido (มิโด) อย่างหนุ่ม Kim Soo-Hyun (คิม ซู ฮยอน) ที่ล่าสุดยังได้มาร่วมถ่ายทอดความโดดเด่นครั้งใหม่ของสองนาฬิการุ่นไฮไลต์ล่าสุดจากคอลเลกชัน Ocean Star นาฬิกาสปอร์ตดำน้ำระดับตำนานที่สร้างชื่อเสียงนับตั้งแต่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1959 ด้วยตัวเรือนแบบ single-shell ที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีของระบบซีลเม็ดมะยม Aquadura ซึ่งช่วยขจัดปัญหาด้านการกันน้ำและเสริมความทนทานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนาฬิกาสองรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมทั้งกิมมิคของงานดีไซน์ที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการอันทันสมัยของการสร้างสรรค์คอลเลกชันนี้ ทั้งยังสอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของผู้คนยุคสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ในแง่ของแฟชัน การแต่งตัว การทำงาน ไปจนถึงงานอดิเรกและการเล่นกีฬา ที่ปัจจุบันการเดินตามวิถีแห่งไลฟ์สไตล์เฉพาะของตนเองนั้นกำลังเป็นที่นิยม เช่นเดียวกับการเลือกที่จะถ่ายทอดถึงตัวตนผ่านบุคลิกและคาแรกเตอร์ที่แตกต่างด้วยนาฬิกาข้อมือสมรรถนะสูงและโดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพะตัว
ล่าสุด Mido และ Kim Soo-Hyun จึงได้ร่วมกันเผยโฉมนาฬิกาดีไซน์สปอร์ตสองรุ่นใหม่ ที่ทั้งคู่มาจากคอลเลกชันนาฬิกา Ocean Star อันโด่งดัง นำมาเติมแต่งด้วยกิมมิค ลูกเล่นและสีสันใหม่ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์แอคทีฟและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นแรก อย่าง Ocean Star 200C Titanium นั้นมาพร้อมเอกลักษณ์ของนาฬิกาสปอร์ต ทั้งยังมีน้ำหนักเบาจากตัวเรือนที่ผลิตจากไทเทเนียม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.5 มิลลิเมตร หนา 12.3 มิลลิเมตร พร้อมผนึกด้วยกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อนสองด้าน และเสริมลูกเล่นโดดเด่นสะดุดตาของหน้าปัดสีดำด้านตกแต่งด้วยลวดลายเกลียวคลื่น ที่บรรจุไว้ด้วยมาร์กเกอร์ชั่วโมงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงเข็มชี้บอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสง ช่วยให้อ่านค่าได้อย่างชัดเจนและมั่นใจแม้อยู่ใต้ความมืดหรือสภาวะแสงน้อย พร้อมพาผู้สวมใส่ไปสัมผัสกับอิสระใต้น้ำได้อย่างคล่องตัว ด้วยการจับคู่มากับสายสร้อยข้อมือทำจากไทเทเนียมขัดด้านแบบซาตินเฉดสีเทา และตัวพับล็อกสามารถปรับขยายความยาวสายสำหรับการดำน้ำได้ ติดตั้งขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทำจากเซรามิกสีดำเงา รวมถึงเม็ดมะยมข้างตัวเรือนแบบขันเกลียว
ขณะที่อีกรุ่นอย่าง Ocean Star Tribute Gradient เผยสไตล์วินเทจร่วมสมัยที่กลมกลืนกับการเลือกใช้สีสันสดใส โดยออกแบบมาเพื่อการเลือกสวมใส่ได้หลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นสำหรับนักเล่นกีฬาและผู้ที่มีไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟ ด้วยเพราะติดตั้งมากับกลไกการทำงานอันเหนือชั้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่คงความสวยงามและสง่างาม ช่วยให้สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว นอกจากนี้ ยังเสริมเสน่ห์ด้วยหน้าปัดโทนสีสด รวมถึงใช้เทคนิคการตกแต่งแบบไล่เฉดสีแดงจากศูนย์กลางไปยังสีดำบนรอบขอบ พร้อมบรรจุด้วยเครื่องหมายบอกเวลาและเข็มชี้เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่ช่วยให้อ่านค่าเวลาได้ดีในที่มืด ปกป้องโดยกระจกแซฟไฟร์ บรรจุภายในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร หนา 13.4 มิลลิเมตร ผสานขอบตัวเรือนอลูมิเนียมสีดำ เม็ดมะยมแบบขันเกลียว ประกอบคู่มากับสายยางสีดำสไตล์เรโทร และหัวเข็มขัดสายแบบหมุด
บนศูนย์กลางไปยังสีดำบนรอบขอบ มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 40.5 มิลลิเมตร
นาฬิกาทั้งสองรุ่น คงไว้ด้วยประสิทธิภาพของการกันน้ำลึกได้ถึงระดับ 200 เมตร หรือ 660 ฟุต พร้อมการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Mido Caliber 80 สำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง เที่ยงตรงแม่นยำทั้งการแสดงเวลา และมาพร้อมความครบครันของการแสดงวันและวันที่ ผ่านช่องหน้าต่าง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่ม Kim Soo-Hyun ที่เผยถึงการเลือกนาฬิกาเรือนโปรดว่า “ด้วยอาชีพของผมที่เป็นนักแสดง ผมจึงให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกายตัวเองและการออกกำลังกายเป็นอันดับแรกๆ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง สามารถเข้าถึงบทบาททางด้านการแสดงได้อยู่เสมอ และนาฬิกาเป็นเครื่องประดับชิ้นโปรดที่ผมมักจะสวมใส่เป็นประจำ เพื่อสร้างบุคลิกที่ดีและเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ซึ่งนาฬิกาที่ผมชื่นชอบจะเป็นสไตล์สปอร์ต มีน้ำหนักเบา สามารถแมทช์กับเครื่องแต่งกายได้ทุกลุคและทุกโอกาส อีกทั้งยังต้องช่วยเติมเต็มสไตล์ของผมให้ดูดีขึ้นอีกด้วย”
นอกจากนี้ Mido ยังได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาสำหรับแมทช์กับการแต่งตัวให้ดูดีตามสไตล์หนุ่มเกาหลีอย่าง Kim Soo-Hyun ผ่านสองสไตล์อันโดดเด่น เริ่มจาก หากต้องการแต่งตัวเรียบเท่สไตล์แคชชวล อาจจะหยิบเสื้อคอเต่าสีดำกับกางเกงสแล็ค มาแมทช์กับรองเท้าผ้าใบ แล้วเติมเต็มลุคด้วยนาฬิกาสีดำที่ดีไซน์มีความวินเทจ แต่มีลูกเล่นจากการไล่เฉดสีแดง-ดำบนหน้าปัด จะสามารถช่วยขับเน้นให้สไตล์มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น หรือหากวันไหนที่ต้องการสร้างลุคที่มีความสดใส ก็สามารถแมทช์สเวตเตอร์โทนสีอ่อนกับกางเกงสแล็คสีดำ แล้วคอมพลีทลุคด้วยนาฬิกาดีไซน์สปอร์ตสายไทเทเนียมก็จะสามารถเติมเต็มลุคได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
Mido เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ที่ Georges Schaeren ได้ริเริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นในเมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1918 พร้อมทั้งปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์นาฬิกาให้อยู่เหนือกาลเวลา ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ซึ่งมรดกเหล่านี้ยังคงได้รับการสืบทอดและพัฒนาต่อยอดมาสู่ผลงานหลากหลายคอลเลกชัน ที่ล้วนบ่มเพาะมาจากประวัติศาสตร์และความเชี่ยวชาญของแบรนด์จวบจนถึงปัจจุบัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MIDO
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
