Breitling ขยายพรมแดนของ Superocean Collection ด้วยเหล่าสมาชิกใหม่ ที่เต็มไปด้วยสีสันและการผสมผสานอันทันสมัยของวัสดุ
ยุค 1960s นับเป็นช่วงเวลาบุกเบิกด้านกีฬาสาขาใหม่ โดยเฉพาะการดำน้ำสกูบาหรือการดำน้ำลึก ที่ส่วนหนึ่งนั้นได้แรงบันดาลใจและอิทธิพลมาจากเรื่องราวการผจญภัยใต้ท้องทะเลของนักสำรวจ Jacques Cousteau ซึ่งนอกเหนือจากภารกิจและเทคนิคการดำน้ำอันท้าทายแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือเรื่องของเวลาและการจับวัดเวลาที่ใช้ในการดำน้ำแต่ละครั้ง ที่ทุกๆ เสี้ยวนาทีล้วนมีความหมายต่อชีวิต ด้วยเหตุนี้ Breitling (ไบรทลิ่ง) จึงได้ริเริ่มสร้างสรรค์นาฬิกาอุปกรณ์เฉพาะที่ดีที่สุดสำหรับนักดำน้ำ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และสไตล์ ที่ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นต้นกำเนิดของหนึ่งในคอลเลกชันยอดนิยมอย่าง Superocean ในวันนี้
นาฬิกาดำน้ำรุ่นดั้งเดิมอย่าง SuperOcean Slow Motion นับจากยุค 1960s และ 1970s นั้นยังคงเป็นแรงบันดาลใจหลักของการนำมาตีความใหม่และออกแบบนาฬิกาสปอร์ตดำน้ำรุ่นใหม่ๆ ของ Superocean เสมอ รวมถึงการพัฒนาด้านสมรรถนะและคุณสมบัติเฉพาะที่จำเป็นสำหรับนักดำน้ำไว้อย่างครบเครื่อง กับอีกหนึ่งการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ที่สำคัญคือการเลือกใช้เฉดสีสันใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงถึงบทบาทของการเป็นนาฬิกาดำน้ำ ท้องทะเล และประสิทธิภาพของการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ใต้น้ำลึก ดังนั้น ในนาฬิกา SuperOcean นับตั้งแต่รุ่นแรกๆ ทีมนักออกแบบของ Breitling จึงได้ขจัดคุณสมบัติหรือฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นในการดำน้ำอื่นๆ ออกไป เหลือไว้เพียงหน้าปัดที่เรียบง่าย อ่านค่าได้ชัดเจน และผสานไว้ด้วยวงแหวนที่บรรจุด้วยสเกลนาทีซึ่งตัดกันอย่างชัดเจน ตลอดจนถึงเครื่องหมายบอกเวลาหรืออินเด็กซ์ (indexes) ทรงบาตอง (batons) ขนาดกว้างและบรรจุด้วยสารเรืองแสง เพื่อเสริมความสามารถในการมองเห็นได้ดียิ่งขึ้น กับอีกจุดสำคัญคือการไม่ติดตั้งเข็มวินาที เพราะนักดำน้ำแทบไม่จำเป็นต้องใช้ และใช้เข็มจับเวลานาทีบนหน้าปัดกลางแทน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Slow Motion” เนื่องจากกว่าเข็มนาทีนี้จะหมุนรอบหน้าปัดสมบูรณ์นั้นต้องใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมง
โดยใน Superocean ใหม่ ได้นำปรัชญาและคอนเซปต์อันแสนเรียบง่ายของ Slow Motion กลับมาใช้ พร้อมทั้งพัฒนาควบคู่กับการมอบคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับนักดำน้ำสมัยใหม่ ซึ่งไม่เพียงต้องการนาฬิกาดำน้ำเพื่อเล่นกีฬาเท่านั้น แต่ยังมองหานาฬิกาสปอร์ตไลฟ์สไตล์ที่พวกเขาสามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาสหรือทุกวัน ซึ่งใน Superocean ใหม่ได้ตอบโจทย์นี้ โดยการมาพร้อมกับตัวเลือกของนาฬิกาทั้งหมดสี่ขนาด ทั้งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 46.0, 44.0, 42.0 และ 36.0 มิลลิเมตร แต่ละรุ่นยังมาพร้อมหน้าปัดหลากหลายสีสันให้เลือกจับคู่กับวัสดุตัวเรือนแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น สตีล สตีลและทอง และบรอนซ์ โดยเฉพาะความโดดเด่นของบรอนซ์ที่นำมาใช้ในรุ่นตัวเรือน 44.0 และ 42.0 มิลลิเมตรนั้น นอกจากจะเชื่อมโยงถึงเรื่องราวการเดินทางบนท้องทะเลแล้ว ยังมีคุณสมบัติเด่นของความทนทานสูงต่อการสึกกร่อน และเกิด patina ตามกาลเวลาที่ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกัน ขณะที่สายนาฬิกาจะมีให้เลือกสองรูปแบบ ระหว่างสายยางสไตล์สปอร์ต และสายโลหะแบบสามแถวที่ออกแบบขึ้นใหม่ ทั้งยังประกอบมากับตัวพับล็อกที่สามารถปรับความยาวสายได้สูงสุดถึง 15 มิลลิเมตร ช่วยให้สวมทับชุดดำน้ำได้ง่ายและสะดวกสบาย
เสริมด้วยประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร หรือ 1000 ฟุต และการแสดงเวลาอย่างชัดเจน ผ่านชุดเข็มชี้และอินเด็กซ์ขนาดกว้าง เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® ช่วยให้อ่านค่าได้รวดเร็วและง่ายดายใต้น้ำ ส่วนขอบตัวเรือนฝังด้วยเซรามิกกันรอยขีดข่วนที่ทนทานต่อการสึกหรอหรือซีดจาง และเพื่อความปลอดภัยใต้น้ำ ขอบตัวเรือนจึงเป็นระบบปรับหมุนได้ทิศทางเดียว ยกเว้นเพียงรุ่นตัวเรือน 46.0 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมขอบตัวเรือนปรับหมุนได้สองทิศทาง แต่ประกอบด้วยระบบล็อกจดสิทธิบัตรที่มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ทั้งยังต้านทานได้ทั้งแรงกระแทก กันทรายและทนทานต่อน้ำเค็ม นาฬิกา Superocean ใหม่ทั้งหมดติดตั้งด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Breitling Caliber 17 ทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ สำรองพลังงานได้ประมาณ 38 ชั่วโมง พร้อมการรับประกันสองปี รวมถึงผ่านประกาศนียบัตรรับรองความเที่ยงตรงโดย COSC
ขณะที่แฟนๆ ของ Slow Motion และ SuperOcean นั้นอาจสังเกตเห็นถึงเอกลักษณ์อีกหนึ่งจุดของรุ่นที่ได้นำกลับมาใช้ใน Superocean ใหม่ นั่นคือเข็มนาทีทรงสี่เหลี่ยมและสเกลนาทีแบบตัดกันกับพื้นหลังของหน้าปัดกลาง นอกจากนี้ ยังมี “the dot” ของรุ่นดั้งเดิมซึ่งเป็นช่องหน้าต่างทรงกลม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และแสดงด้วยสีสันแตกต่างกันเพื่อบอกถึงสถานะของเข็มนาทีว่ากำลังทำงาน หรือหยุด หรือปิดอยู่ โดยใน Superocean รุ่นใหม่นี้ได้ตีความมาเป็นรูปวงกลมบนเกือบปลายสุดของเข็มวินาที ที่ชวนให้นึกถึง “the dot” ดั้งเดิม
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ของ Superocean ใหม่ คือนาฬิการุ่นพิเศษ Superocean Automatic 42 Kelly Slater Limited Edition ที่ออกแบบขึ้นร่วมกับ Kelly Slater แชมป์เซิร์ฟและเป็นหนึ่งใน Breitling Surfer Squad กับความโดดเด่นของหน้าปัดสีส้มสะดุดตาที่จับคู่มากับสายยางสีเขียวมิลิแทรี ธีมสีที่ Kelly Slater เผยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาที่คุณพ่อของเขาเคยสวมเวลาเล่นเซิร์ฟ และยังเป็นธีมสีที่เขาชอบใช้พ่นบนบอร์ด ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือน
Superocean ใหม่นับเป็นตัวแทนของนาฬิกาดำน้ำที่จารึกไว้ด้วยความสำเร็จและประวัติศาสตร์การบุกเบิกอุปกรณ์บอกเวลาสำหรับมืออาชีพ ขณะที่ยังคงสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และสไตล์การออกแบบ ที่แม้จะผ่านวิวัฒนาการและการปรับเปลี่ยนมาตลอดเส้นทางการสร้างสรรค์ แต่ก็ยังคงไว้ด้วยปรัชญาสำคัญของการเป็นนาฬิกาที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดเวลา ตลอดวัน และในหลากหลายโอกาส ซึ่งสอดคล้องสมดุลไปกับเรื่องราวแห่งมรดกและสมรรถนะที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเสมอ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BREITLING
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่