หวนกลับสู่ความนิยม ด้วยนาฬิกาดำน้ำสเกเลตันสลับซับซ้อนใหม่ของ Ulysse Nardin Diver X Skeleton Black
หลังความสำเร็จจากการเปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นก่อนหน้า อย่าง Diver X Skeleton กับเฉดสีน้ำเงินในปี ค.ศ. 2021 ล่าสุด Ulysse Nardin (ยูลิส นาร์แดง) ได้แนะนำการหวนคืนสู่ความนิยมอีกครั้งของนาฬิการุ่นใหม่ในรูปโฉมสีดำและสีเหลืองของ Diver X Skeleton Black พร้อมทั้งการผลิตในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 175 เรือนเท่านั้น
โดยการกลับมาครั้งนี้ของ Diver X Skeleton Black ยังมาพร้อมนวัตกรรมและเสน่ห์แห่ง Carbonium® สีดำ ที่นำมาใช้ผลิตเป็นขอบตัวเรือน ซึ่ง Carbonium® เป็นวัสดุที่ริเริ่มใช้มาแล้วก่อนหน้านี้กับนาฬิกา FREAK X ที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ไม่ว่าจะเป็นความมีน้ำหนักเบาอย่างมาก และเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีความแข็งแกร่งทนทานสูงที่สุดเท่าที่เคยพัฒนาสร้างสรรค์มา โดยผ่านกระบวนการผลิตอันซับซ้อนที่ทำขึ้นจากไฟเบอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้สำหรับผลิตลำตัวและปีกของเครื่องบินอันร่วมสมัย และเพราะกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุ “เหลือใช้” จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งน้อยกว่าคาร์บอนอื่นๆ ถึง 40% และเนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการนำคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 7 ไมครอน มาผลิตภายใต้สภาวะแรงกดอากาศและอุณหภูมิสูง จึงทำให้ไฟเบอร์ต่างๆ นั้นสร้างรูปเป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิกาแต่ละเรือน และกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละผลงานที่ไม่ซ้ำกัน
นอกจากนี้ Diver X Skeleton Black ยังผสานเข้ากับตัวเลือกของสายยางสีเหลืองโดดเด่น พร้อมองค์ประกอบสัญลักษณ์ของ Ulysse Nardin ทำจากเซรามิกสีดำ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา รวมถึงหัวเข็มขัดสายแบบปรับได้ทำจากเซรามิกและไทเทเนียมสีดำ หรือเลือกเป็นสาย R-STRAP สีดำ ซึ่งเป็นสายบุกเบิกด้านวัสดุยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลิตขึ้นทั้งหมดจากอวนจับปลาอัพไซเคิลจากท้องทะเล 100% และผ่านการเคลือบกันรอย ที่ ณ ปัจจุบัน Ulssye Nardin ได้แสดงออกถึงความทุ่มเทด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังในการอนุรักษ์และพิทักษ์มหาสมุทร และให้ความสำคัญในสองวิถีหลัก คือการส่งเสริมการอัพไซเคิล เพื่อลดมลพิษจากขยะพลาสติกทางทะเล และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ฉลาม อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์
ขณะเดียวกันในผลงานล่าสุดนี้ยังคงผสานไว้ด้วยวิวัฒนาการอันก้าวล้ำสมัยของคอลเลกชัน Diver X และความก้าวหน้าทางเทคนิคของคอลเลกชัน Blast รวมถึงความเปลือยโปร่งอันทรงพลังในแบบฉบับของนาฬิกาสเกเลตัน ที่ยิ่งทำให้นาฬิการูปโฉมสีดำนี้โดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น ในฐานะนาฬิกาฮีโรของคอลเลกชัน Diver และแน่นอนว่าย่อมมาพร้อมด้วยสมรรถนะของนาฬิกาดำน้ำเต็มพิกัด โดยรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อทนทานต่อแรงกดอากาศที่เกิดขึ้นได้ภายใต้ระดับความลึก 200 เมตร ติดตั้งด้วยขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทิศทางเดียวแบบเว้าทำจาก Carbonium® สีดำ และผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์โค้งทรงโดม ส่วนฝาหลังแบบเปิดทำจากไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ และกระจกแซฟไฟร์
และเพื่อมอบให้ Diver X Skeleton Black กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ทีมวิศวกรจึงได้ออกแบบกลไกขึ้นใหม่ใน Manufacture Caliber UN-372 ซึ่งเป็นกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติสเกเลตันผลิตในโรงงานของตนเอง มาพร้อมฟังก์ชันแสดงชั่วโมง นาที และวินาที ประกอบด้วยออสซิลเลเตอร์ซิลิเซียมขนาดใหญ่พิเศษ รวมถึงเอสเคปวีล แองเคอร์ และบาลานซ์สปริงซิลิเซียม ขณะที่มีชิ้นส่วนกลไกรวม 171 ชิ้น และทับทิม 23 เม็ด โดยทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 3 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง สามารถมองเห็นความซับซ้อนของกลไกภายในนี้ได้ผ่านทั้งด้านหน้าปัดสเกเลตันและฝาหลังแบบเปิดด้วยกระจกแซฟไฟร์ ภายในตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.0 มิลลิเมตร ที่ทำจากไทเทเนียม เคลือบ DLC สีดำ ตกแต่งแบบแซนด์บลาสต์ (sandblasted) บนด้านข้าง พร้อมทั้งหูตัวเรือนเชื่อมสายขัดแต่งแบบซาติน ผ่านการเคลือบด้วย DLC สีดำ และตัดด้วยรายละเอียดสีเหลือง อย่างเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์ชั่วโมง และเส้นสายด้านในของสัญลักษณ์ “X” ซึ่งเสริมทั้งความโดดเด่นของสีสันอันสดใสสะกดสายตา และย้ำถึงต้นกำเนิดแห่งสไตล์สปอร์ตของนาฬิการุ่นนี้ โดยเฉพาะส่วนเพิ่มเติมของโรเตอร์ขึ้นลานรูปทรง “X” ที่เป็นไอคอนิกของ Ulysse Nardin รวมถึงฝาตลับลานซึ่งจัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนเข็มชี้ชั่วโมง นาที และวินาที พร้อมทั้งเครื่องหมายบอกเวลาหรือ indexes ต่างๆ ล้วนเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาวหรือสีเหลือง ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่นภายในผลงานรุ่นนี้เช่นกัน
Diver X Skeleton Black คงไว้ด้วยหน้าปัดแบบ interface และภายใต้รูปทรงสัญลักษณ์ “X” ของ Ulysse Nardin นั้นยังต้องอาศัยเทคนิคอันซับซ้อนในการสร้างสรรค์โครงสร้างอันแยบยล โดยอินเด็กซ์บอกชั่วโมงจำเป็นต้องซ่อนการเชื่อมต่อเข้ากับหน้าปัดเพื่อให้ดูเหมือนกำลังลอยอยู่ รวมถึงการใช้วิธีการจัดวางชั้นต่างๆ ซ้อนกัน เพื่อย้ำถึงโครงสร้างแบบเล่นระดับของสัญลักษณ์ “X” กลาง และด้วยระดับที่แตกต่างกันของงานตกแต่งที่นำมาใช้ซึ่งมอบเป็นมิติการเล่นกับแสง และเสริมความโดดเด่นให้กับโครงร่างอันเปลือยโปร่งของทั้งนาฬิกาและกลไกสเกเลตันภายใน โดยรุ่นล่าสุดของนาฬิกาสปอร์ตดำน้ำสลับซับซ้อนนี้ ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 175 เรือน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ULYSSE NARDIN
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่