รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวทันสมัยด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายรูปทรงตัว L ลากยาวตลอดความกว้างของตัวรถ สอดรับกับโลโก้แบบใหม่ของเลกซัส
Lexus NX (Nimble Crossover): รุ่น NX 450h+ [Plug-in Hybrid] ในปีที่ผ่านมาถือเป็นก้าวสำคัญของเลกซัส ซึ่งได้มอบทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าผ่านยนตรกรรมครอสโอเวอร์สุดหรู ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว ประกอบกับการออกแบบรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและโดดเด่น ทำให้ Lexus NX ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 1 ล้านคัน และยังเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของเลกซัสประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น NX 450h+ ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด ได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยยอดจองสะสมตั้งแต่เปิดตัวกว่า 503 คันแล้วในรุ่นนี้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวทันสมัยด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายรูปทรงตัว L ลากยาวตลอดความกว้างของตัวรถ สอดรับกับโลโก้แบบใหม่ของเลกซัส
ภายในออกแบบมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่คือศูนย์กลางในการควบคุมรถ เพื่อทัศนวิสัยที่ดีและควบคุมทุกอย่างได้ผ่านหน้าจอ Head-up Display ที่สั่งการได้จากสวิตซ์แบบสัมผัสบนพวงมาลัย พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 14 นิ้ว ช่วยการตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญคือสามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและกว้างขึ้น ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยมและควบคุมได้ดั่งใจ ทำให้ NX มีเสถียรภาพในการขับขี่ดีขึ้นในทุกมิติ ตอกย้ำปรัชญา Lexus driving signature ได้เป็นอย่างดี
ในรุ่นท็อปนี้ยังมีสมรรถนะใหม่แห่งการขับขี่ที่เร้าใจ ให้ความเงียบที่เหนือกว่า และช่วยการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม จึงเข้ากับยุคน้ำมันแพงพอดี ด้วยการใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จากเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2,500 ซีซี ทำงานผสานกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง 18.1 kW และมอเตอร์กำลังสูง เดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ 87 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ด้วยการชาร์จไฟ จนเต็ม 100% ภายในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น NX 450h+ ยังมี Battery Charging Mode ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนกระทั่งถึง 80% ใช้วิ่งได้ด้วยระบบ EV โดยไม่ต้องพึ่งสถานีชาร์จระหว่างทาง ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเมื่อต้องเดินทางไกล
ทั้งนี้คุณจะมั่นใจตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ และครบครันอย่าง Lexus Safety System Plus (LSS+) ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
โดยฟังก์ชั่นใหม่ที่เป็นไฮไลท์คือ Lexus Teammate Advanced Park ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะที่สามารถนำรถเข้าช่องจอดได้เองโดยอัตโนมัติ
ทั้งยังมีระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH โดยระบบไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องออกแรงดึงหรือผลักประตู จึงให้ความสบายเหนือใคร
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF LEXUS
GRAPHIC DESIGNER: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่