อุทิศให้กับยุคทองแห่งความเชี่ยวชาญในสาขาการประดิษฐ์นาฬิกาอันร่วมสมัย ที่ H. Moser & Cie. ได้ถ่ายทอดผ่านผลงานการเปิดตัวครั้งล่าสุดของนาฬิกาตีระฆังบอกเวลาผสานทูร์บิญองรุ่นใหม่ จากคอลเลกชัน Endeavour
ต้นแบบแห่งวิถีการสร้างสรรค์เรือนเวลาอันร่วมสมัยอย่างแท้จริง ที่ผลงานใหม่ล่าสุดจาก H. Moser & Cie. (เอช. โมเซอร์ แอนด์ ซี.) ใน Endeavour Concept Minute Repeater Tourbillon Red Gold และเวอร์ชัน Titanium นี้ได้อุทิศให้กับความเชี่ยวชาญและยุคทองของการรังสรรค์นาฬิกา โดยเรือนเวลาสลับซับซ้อนนี้ผสมผสานไว้ด้วยกลไกจักรกลตีบอกเวลา หรือมินิทรีพีทเตอร์ (minute repeater) และทูร์บิญอง (tourbillon) พร้อมทั้งบรรจุภายใต้ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.0 มิลลิเมตรสุดคลาสสิก ทำจากเรดโกลด์ 5N หรือไทเทเนียม โดยคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ของปรัชญาแห่งความเรียบน้อย ที่โรงงานการผลิตแห่งนี้ให้ความสำคัญในการประดิษฐ์สร้างสรรค์เรือนเวลาเสมอ
Endeavour Concept Minute Repeater Tourbillon ซึ่งเป็นผลงานใหม่นี้ ยังมาพร้อมความสง่างามของงานดีไซน์และการตกแต่งบนหน้าปัดด้วยเฉดสีน้ำเงินฟ้า หรือ Aqua Blue และเปิดบางส่วนของหน้าปัดเป็นแบบเปลือยโปร่ง เพื่อเผยให้เห็นความสลับซับซ้อนของจักรกลตีบอกเวลาชั่วโมง, 15-นาที และนาที ไว้บนด้านหน้าปัดอีกด้วย ขณะที่ค้อนและฆ้องของจักรกลตีบอกเวลานี้ยังเคลื่อนไหวราวกับนักเต้นระบำบัลเลต์ ที่ไม่เพียงแสดงออกถึงความสวยงาม พลิ้วไหว แต่คงไว้ด้วยคุณสมบัติสำคัญด้านฟังก์ชัน ที่ผสานเป็นท่วงทำนองเดียวกันกับการเคลื่อนหมุนของฟลายอิ้งทูร์บิญองหนึ่งนาที (one-minute flying tourbillon) ลงตัวโดยการจัดวางองค์ประกอบและมีมิติ ที่หน้าปัดนี้ได้กลายเป็นฉากหลักอันงดงามให้กับงานฝีมือและการร่ายรำอันวิจิตร ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากเทคนิคลงยาแบบ “Grand Feu” ในเฉดสีน้ำเงินฟ้าใหม่ของแบรนด์บนฐานซึ่งตกแต่งด้วยพื้นผิวแบบตอกลายสวยงาม
นับเป็นอีกครั้งที่ H. Moser & Cie. ได้นำเสนอหนึ่งในนาฬิกาทรงคุณค่าแห่งประเพณีและโรแมนติกสวยงามสูงสุด จากการถ่ายทอดความสลับซับซ้อนของจักรกลและหลอมรวมเข้ากับความเที่ยงตรงแม่นยำอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะจากการติดตั้งด้วยฟลายอิ้งทูร์บิญองอันล้ำเลิศ ทั้งยังดึงดูดสายตาและความสนใจไปสู่จักรกลมินิท รีพีทเตอร์ ที่ได้เลือกและตัดสินใจติดตั้งฆ้องและค้อนรูปทรงเฉพาะสองตัวไว้ให้เห็นบนด้านหน้าปัด ซึ่งนับเป็นงานออกแบบใหม่สำหรับแบรนด์ ขณะที่ยังเชื่อมโยงถึงความท้าทายทางเทคนิคอีกมากมาย โดยเฉพาะจักรกลตีบอกเวลาซึ่งถูกจัดวางในระดับเดียวกัน เพื่อรักษาไว้ด้วยความประณีตสวยงามโดยรวมของผลงาน กับความโค้งและโครงสร้างที่ไม่รบกวนการทำงานของจักรกลฟลายอิ้งตูร์บิญอง ทั้งยังอุทิศให้กับเป้าหมายอันสำคัญของแบรนด์ในการรักษาไว้ซึ่งงานออกแบบอันเรียบง่ายร่วมสมัย
ในตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.0 มิลลิเมตรของรุ่นนี้ มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชันเรดโกลด์หรือไทเทเนียม ที่มอบซึ่งประสิทธิภาพของเสียงและความสมดุลกลมกลืนระหว่างความดัง โทน และเสียงสะท้อน โดยตัวเรือนชิ้นกลางได้ถูกปรับขยายให้กว้างขึ้นสูงสุด เพื่อรองรับกลไก ขณะเดียวกันยังช่วยมอบพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับสร้างกล่องเสียง และช่วยขยายให้เสียงตีบอกเวลาชั่วโมง, 15-นาที และนาที โดยฆ้องสองตัวและค้อนสองตัวนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น และด้วยความสง่างามอันเป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน H. Moser & Cie. จึงได้มอบงานออกแบบสไตล์คลาสสิกและโรแมนติกให้กับเรือนเวลาใหม่นี้ ที่ผสานอย่างสมดุลสมบูรณ์แบบระหว่างมิติและสัดส่วน
โดย ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา บรรจุไว้ด้วยฟลายอิ้งทูร์บิญองที่สามารถมองเห็นได้ผ่านสะพานจักรสเกเลตัน แสดงออกถึงความร่วมสมัยและปรากฏเสมือนลอยอย่างไร้น้ำหนักเหนือหน้าปัดลงยาแบบ “Grand Feu” โดยเริ่มต้นจากลวดลายเกรนที่ตกแต่งบนฐานทองคำราวกับงานตอกลาย ตลอดจนการตกแต่งเฉดสีที่มอบมิติสวยงามเปล่งประกาย ซึ่งนั่นจำเป็นต้องใช้เวลาราวถึงหนึ่งชั่วโมงในการทำงานอย่างทุ่มเทและพิถีพิถันสำหรับช่างลงยาระดับมาสเตอร์ ผู้ซึ่งบรรจงผสมและวาดเม็ดสีเหล่านี้ด้วยความละเมียดละไมและแม่นยำ รวมทั้งต้องคำนึงถึงผลลัพธ์อันกลมกลืนของมิติ เช่นเดียวกับการไล่โทนและสีที่มีความสมดุลเป็นธรรมชาติ
หน้าปัดลงยากึ่งโปร่งแสงแบบ “Grand Feu” นี้จำเป็นผ่านขั้นตอนของการเผาในเตาถึงสิบสองครั้ง เพื่อรังสรรค์เป็นมิติแบบ fumé อันเป็นเอกลักษณ์ของ H. Moser & Cie. โดยในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าปัดสีน้ำเงินฟ้า หรือ Aqua Blue สวยงาม ขณะที่แต่ละหน้าปัดเองยังมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวไม่ซ้ำกัน ซึ่งนั่นได้กลายเป็นเสน่ห์และคุณค่าที่ไม่อาจเทียบเคียงได้ของงานหัตถศิลป์ โดยมอบทั้งความร่วมสมัยและวิจิตรสวยงามเหนือกาลเวลา และเป็นเหตุผลที่แบรนด์นี้เลือกที่จะไม่ใส่โลโก้ หรือแม้แต่เครื่องหมายขีดบอกเวลาใดๆ ไว้บนหน้าปัดด้วย
ทำงานด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ Calibre HMC 904 ความถี่ 3 เฮิรตซ์ หรือ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้ 90 ชั่วโมง โดยสามารถชื่นชมความสวยงามของกลไกชุดใหม่นี้ได้ผ่านชิ้นส่วนตกแต่งแบบสเกเลตัน พร้อมทั้งรหัสอีกมากมายที่สะท้อนถึงประเพณีและความคิดสร้างสรรค์ สไตล์อันเรียบน้อยและมีเอกลักษณ์ ที่ได้มอบสัมผัสสุดท้ายของความสง่างามให้กับเรือนเวลารุ่นใหม่ของ H. Moser & Cie. ซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดเพียงเวอร์ชันตัวเรือนละ 20 เรือนเท่านั้น
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF H. MOSER & CIE.
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่