IWC เดินหน้าสนับสนุนการทำงานของ Laureus Sport for Good พร้อมเผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ใน Portofino Chronograph 39 Edition “Laureus Sport for Good”
“กีฬามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลก” คือคำกล่าวของ Nelson Mandela ในงาน Laureus Awards ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 และกลายเป็นแรงบันดาลใจแห่งปณิธานและความมุ่งมั่นตั้งใจของ Laureus Sport for Good ในการใช้พลังแห่งกีฬาเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม รวมถึงยุติความรุนแรง การแบ่งแยก และความไม่เท่าเทียม ซึ่งนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 Laureus ได้บรรลุถึงวัตถุประสงค์และช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเด็กและเยาวชนมาแล้วกว่าหกล้านคน และ ณ ปัจจุบัน มูลนิธิยังสนับสนุนโครงการอีกกว่า 250 โครงการในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เพื่อใช้พลังแห่งกีฬาในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนต่อไป
และเป็นในปี ค.ศ. 2005 ที่ IWC Schaffhausen (ไอดับเบิลยูซี ชาฟฟ์เฮาเซน) ได้ร่วมเป็น Global Partner ของมูลนิธิ และพร้อมนำพาผู้คนเข้าร่วมแบ่งปันความเชื่อที่พวกเขามีต่อพลังของกีฬาในการทลายซึ่งกำแพง สร้างความเชื่อมโยงกับผู้คนอื่นๆ และเปลี่ยนโลกให้ดียิ่งขึ้น โดยการทำงานและสนับสนุนอย่างใกล้ชิดให้กับทั้ง Laureus World Sports Awards และ Laureus World Sports Academy ซึ่ง Laureus World Sports Awards นั้นถือเป็นรางวัลเกียรติยศทางกีฬาระดับโลกที่ได้มอบเกียรติให้แก่เหล่านักกีฬาและทีมผู้ยิ่งใหญ่ในทุกสาขา จากบรรดาผู้ได้รับการเสนอชื่อที่คัดเลือกโดยตัวแทนคณะกรรมการกว่า 1300 คนจากสื่อมวลชนด้านกีฬาระดับโลก จากนั้นจึงเป็นการโหวตโดยคณะกรรมการของ Laureus World Sports Academy เพื่อเลือกผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี
นอกเหนือจากการสนับสนุนอย่างมุ่งมั่นทุ่มเทแล้ว นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 IWC ยังได้ร่วมให้การสนับสนุนมูลนิธิผ่านการเปิดตัวเรือนเวลารุ่นพิเศษของ Laureus กับเอกลักษณ์ความโดดเด่นบนหน้าปัดสีน้ำเงิน รวมถึงอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของการแกะสลักบนฝาหลังนาฬิกา ที่แต่ละปีนั้น IWC จะจัดการแข่งขันวาดภาพสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Laureus ภายใต้ธีมและการตีความของผู้ส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันที่สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals) โดยการคัดเลือกผู้เข้ารอบสูงสุดสามคนจากตัวแทนคณะกรรมการจาก Laureus และ IWC จากนั้นจึงเป็นการโหวตโดยสาธารณชน ซึ่งภาพวาดของผู้ชนะจะถูกนำมาแกะสลักไว้บนฝาหลังของนาฬิกา และผู้ชนะเองยังได้รับรางวัลพิเศษจาก IWC ขณะที่องค์กรของผู้ชนะจะได้รับเงินบริจาคสมทบทุน เช่นกันกับได้ต้อนรับการไปเยี่ยมเยือนโดยสมาชิกหรือแอมบาสเดอร์ของ Laureus Academy อีกด้วย
สำหรับปีนี้ งานแกะสลักบนฝาหลังนั้นเป็นผลงานที่ถ่ายทอดภาพของมือที่จับผนึกกำลังกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างเสมอภาค ที่วาดโดย Jatin Malhan วัย 15 ปี ผู้ชนะจากการแข่งขัน โดย Jatin เป็นนักกีฬาในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมฟุตบอลเยาวชน Youth Football Club Rurka Kalan ของเมืองชลันธร (Jalandhar) รัฐปัญจาบ อินเดีย และโปรแกรมที่เขาได้เข้าร่วมนี้ได้มีส่วนส่งเสริมพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนของพวกเขา พร้อมทั้งสนับสนุนความเข้มแข็งและจิตวิญญาณของชุมชน เช่นเดียวกับความเสมอภาคทางเพศผ่านกีฬาและการศึกษา
งานแกะสลักด้วยภาพวาดดังกล่าวในปีนี้ได้บรรจงตกแต่งภายใน Portofino Chronograph 39 Edition “Laureus Sport for Good” นาฬิการุ่นพิเศษที่ IWC เผยโฉมในโอกาสของงาน 2022 Laureus World Sports Awards ในเซบิยา สเปน เพื่อร่วมสนับสนุนการทำงานของ Laureus Sport for Good โดยผลงานรุ่นที่ 16 ที่ IWC เปิดตัวโดยความร่วมมือกับมูลนิธินี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 1000 เรือน และยังคงมาพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน Laureus ตัดกับเข็มชี้และเครื่องหมายบอกเวลาชุบโรเดียมแบบนำมาติดบนหน้าปัด บรรจุภายในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.0 มิลลิเมตร หนา 12.8 มิลลิเมตร ปกป้องโดยกระจกแซฟไฟร์โค้งนูนและเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน และประกอบคู่มากับสายหนังวัวสีดำ นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นพิเศษนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 79350 ความถี่ 4 เฮิรตซ์ หรือ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้ 44 ชั่วโมง และคงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 30 เมตร
ตลอดกว่า 150 ปีแห่งประวัติศาสตร์ IWC ได้พัฒนาชื่อเสียงในการสร้างสรรค์เรือนเวลาสลับซับซ้อนและเปี่ยมด้วยฟังก์ชัน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์นาฬิกาโครโนกราฟและปฏิทิน ซึ่งมีทั้งความแข็งแกร่งทนทาน อัจฉริยะ และง่ายต่อการใช้งาน ทั้งยังเป็นแบรนด์นักบุกเบิกในสาขาวัสดุศาสตร์ เช่น การใช้ไทเทเนียมและเซรามิกที่มีคุณสมบัติพิเศษเหมาะสำหรับนาฬิกาข้อมือ รวมไปถึงการเดินหน้าพัฒนาและผลิตตัวเรือนนาฬิกาจากนวัตกรรมวัสดุล้ำสมัย อย่าง ไทเทเนียม-อลูมิไนด์ และเซราเทเนียม (Ceratanium®) โดยยังคงหลักการของการสร้าง “รูปแบบตามฟังก์ชัน” ที่นำมาผสมผสานในการตกแต่งและการรังสรรค์บนพื้นฐานแห่งประเพณีการผลิตนาฬิกาสวิส ซึ่งพร้อมจะเป็นตัวแทนถึงความใฝ่ฝัน ความมุ่งมั่น และความหลงใหลของเจ้าของเรือนเวลาเช่นกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF IWC
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่