รวบรวมทุกเคล็ดลับความงามเรื่องครีมกันแดด ไม่ว่าจะเป็นวิธีทาครีมกันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไปจนถึง 7 ตำแหน่งบนร่างกายที่สาวๆ ละเลยการทาครีมกันแดดโดยไม่รู้ตัว พร้อมอัพเดทผลิตภัณฑ์กันแดดหลากหลายเนื้อสัมผัสที่ต้องมีตลอดซัมเมอร์นี้
การทาครีมกันแดดเป็นกิจวัตรความงามที่ขาดไม่ได้และจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อผิวต้องเผชิญกับแสงแดดอยู่ทุกวันก็จริง แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักวิธีทาผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องที่ดีที่สุด Padthai.co รวบรวมเคล็ดลับความงามในการทาครีมกันแดดอย่างไรให้เห็นผลชัด กันแดดได้จริง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยวิธีง่ายๆ เพียง 4 ข้อเท่านั้น
1. ทาครีมกันแดด ก่อนออกแดด 20 นาที
ครีมกันแดดมีเวลาในการทำงานแบบเฉพาะตัว แนะนำให้ทาครีมกันแดดทิ้งไว้ก่อนออกแดด หรือออกข้างนอกก่อนประมาณ 20 นาที
2. ทาครีมกันแดดในปริมาณที่พอเหมาะ
การทาครีมกันแดดสำหรับใบหน้า ควรใช้เนื้อครีมในปริมาณเหรียญ 10 บาท หรือ 2 ข้อนิ้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับใครที่กลัวเหนอะหนะ หรือคิดว่าจำนวนครีมเยอะไป ให้เลือกแบ่งแต้มเนื้อครีมลงบนใบหน้าออกเป็น 5 ส่วน ค่อยๆ เกลี่ยจนทั่ว หากครีมยังเหลืออยู่ รอให้เนื้อครีมบนใบหน้าซึมแห้งไปเสียก่อน แล้วจึงทาทับซ้ำใหม่อีกครั้งจนกว่าครีมที่บีบออกมาจะหมด
ส่วนครีมกันแดดที่ใช้ทาตัว หากใช้ทาในบริเวณแขน ขา หลัง ควรใช้ให้อยู่ในปริมาณ 1 แก้วชอต หรือ 30 ออนซ์โดยประมาณ หากมีครีมบำรุงตัวอื่นที่ต้องใช้ ให้ทาครีมบำรุงอื่นๆ ก่อนจึงค่อยทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
3. หากออกแดดตลอด ให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมง
ในกรณีที่ต้องเข้าออกกลางแจ้งตลอดเวลา โอกาสที่ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลงย่อมมี จึงควรพกครีมกันแดดติดกระเป๋า ขยันทาสักหน่อยเพื่อผิวสวยใส ส่วนปริมาณไม่จำเป็นต้องเยอะเท่ากับครั้งแรกที่ทาก็ได้
4. ลงเล่นน้ำกลางแจ้งให้เลือกใช้ครีมกันแดดประเภทกันน้ำ
ไม่ว่าจะเล่นน้ำสระ ลงน้ำทะเล หรือเล่นกีฬากลางแจ้งที่ต้องเสียเหงื่อเยอะ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดประเภทกันน้ำ ครีมกันแดดประเภทนี้จะมีความเหนียวเกาะผิวได้มากกว่าชนิดอื่นๆ กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี กันแดดได้นานกว่าครีมกันแดดแบบอื่นๆ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทาครีมกันแดดแบบกันน้ำจะสามารถอยู่ได้ทั้งวันเพราะหากเล่นน้ำหรือโดนเหงื่อต่อเนื่อง 40–80 นาที ครีมกันแดดจะค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลงเอง หากต้องตากแดดอย่างต่อเนื่องควรทาครีมกันแดดทุกๆ 40 นาที
ปัจจัยอื่นๆ กับการป้องกันผิวจากแสงแดด
- ครีมกันแดดหน้า VS ครีมกันแดดตัว ถึงจะเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดเหมือนกัน แต่วิธีการใช้ ประเภทผิวที่ควรใช้คนละอย่างกัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความอ่อนโยน และถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับผิวส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นอย่านำมาใช้ปะปนกัน
- เสื้อผ้าสามารถกันแดดได้เช่นกัน เพราะการทาครีมกันแดดเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันผิวจากแสงแดดได้เต็มร้อย เสื้อผ้าจึงกลายเป็นอีกสิ่งที่ช่วยได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีการระบุว่าสามารถกันแดดกันรังสียูวีได้ หรือระบุค่ากันยูวีไว้
- จะอยู่ฤดูไหนก็ต้องทากันแดด ฤดูต่างๆ ที่ดูเหมือนไม่มีแดด อากาศเย็นสบาย ไม่รู้สึกร้อนเลยไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดก็ได้ ความคิดนี้ทำผิวพังกันมานักต่อนัก ถึงจะแดดร่ม อากาศจะเย็นก็ใช่ว่าจะไม่มีรังสียูวีทำลายผิว ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหน อากาศเป็นอย่างไรห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด เพราะแดดคือตัวทำลายผิวที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ตลอด ดังนั้นมาเผชิญหน้าอย่างถูกต้อง พร้อมปกป้องให้ผิวของคุณสวยใสสุขภาพดีอย่างมั่นใจ
7 ตำแหน่งบนร่างกายที่มักถูกละเลยเมื่อทาครีมกันแดด
1. ใบหู
ปัจจุบันพบเจอผู้ที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิด Squamous Cell Carcinoma บริเวณใบหูเลยไม่น้อย หากไม่อยากเสี่ยงเป็นมะเร็งก็ควรที่จะทาครีมกันแดดที่ใบหูของเราด้วย หลายคนอาจคิดว่าผมยาวก็น่าจะช่วยปิดใบหูไม่ให้โดนแสงแดดได้ แต่อย่างไรก็ตาม เส้นผมหนาๆ ก็มีช่องว่างให้แสงแดดทะลุลอดผ่านเข้าไปได้ ทำให้ใบหูสัมผัสกับแสงแดดไปแบบเต็มๆ เห็นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องการทาครีมกันแดดที่ใบหู
2. มือ
มือเป็นอีกบริเวณที่ผิวแสดงสัญญาณเตือนของผิวคล้ำเสีย และผิวแก่เร็วเป็นที่แรกๆ เพราะเป็นบริเวณหนึ่งที่ถูกแสงแดดทำร้ายได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ไม่มีเสื้อผ้ามาปกปิด หรือถึงแม้เราจะทาครีมกันแดดที่มือก่อนออกจากบ้าน แต่อย่าลืมว่าในแต่ละวัน เราใช้มือหยิบจับสิ่งต่างๆ ครีมที่ทามาก็หลุดออกไปเรื่อยๆ ใครที่ไม่เคยทาครีมกันแดดที่มือก็ควรลองหันมาทาบ้าง และอย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดซ้ำๆ บริเวณหลังมือเมื่อออกแดดนานๆ
3. เท้า
อีกจุดที่ใครหลายคนมักพลาดที่จะทาครีมกันแดดไป พอทาครีมบริเวณช่วงขาแล้ว ก็มักจะหยุดแค่ที่บริเวณข้อเท้า ปล่อยช่วงเท้าทิ้งไว้อย่างนั้นโดยที่ไม่ทาอะไร อาจจะเป็นเพราะว่า อย่างน้อยก็มีรองเท้าห่อหุ้มอยู่ แต่อย่าลืมว่า บริเวณที่ไม่ถูกรองเท้าห่อหุ้มก็จะถูกแดดเผา เป็นรอยคล้ำขึ้นมาได้อยู่ดีนั้นเอง ดังนั้น ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดที่เท้า รวมถึงนิ้วเท้ากันด้วย
4. ข้อพับบริเวณขา
อย่าให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดแค่บริเวณผิวขาด้านหน้าเท่านั้น แต่ควรทาบริเวณหลังขาด้วย เพราะบริเวณข้อพับเป็นบริเวณที่อันตรายมากเมื่อถูกแสงแดดบ่อยๆ และเป็นบริเวณที่มักจะเกิดมะเร็งเมลาโนม่าในผู้หญิงได้สูงด้วย ฉะนั้นควรทาครีมกันแดดให้ทั่วทั้งขา ไม่ใช่แค่บริเวณผิวขาด้านหน้าอย่างเดียว แต่รวมถึงผิวขาด้านหลัง ตลอดจนบริเวณข้อพับด้วย เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากแสงแดด
5. รอบๆ กรอบหน้า
แม้จะเป็นจุดที่ไม่ไกลไปจากสายตาเราเลย แต่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ใครหลายคนทั้งลืมหรืออาจเลี่ยงที่จะไม่ทาครีมกันแดด แต่เน้นทาแค่ตรงแก้ม หน้าผาก คาง และจมูกเท่านั้น เพราะกลัวว่าครีมกันแดดจะไปโดนไรผมจนทำให้ผมมัน ซึ่งจริงๆ แล้ว นั่นคือบริเวณที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นจุดที่แสงแดดสามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
6. ใต้วงแขน
สำหรับสาวๆ ที่ชอบใส่เสื้อแขนกุด บริเวณใต้วงแขนเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเวลาเราเคลื่อนไหวไปมา ก็อาจทำให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาทำร้ายผิวได้ เพื่อไม่ให้ผิวบริเวณนี้คล้ำเสีย ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดบริเวณใต้วงแขนด้วยเช่นกัน
7. ริมฝีปาก
หลายคนคงจะให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดบนผิวหน้า ผิวกาย เป็นอย่างดี แต่ก็มีจุดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักหลงลืมที่จะปกป้องจากแสงแดดนั่นก็คือ บริเวณริมฝีปากนั่นเอง โดยบริเวณริมฝีปากนั้นเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ไม่ต่างจากส่วนอื่นๆ บนร่างกายเช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมทาลิปบาล์มกันแดดที่ริมฝีปากเป็นประจำ
12 BEST SUNSCREEN FOR FACE
1. COOLA Scalp & Hair Mist Organic Sunscreen SPF 30
2. DR. JARTS+ Every Sun Day Sun Fluid SPF 50+
3. ILIA Flow-Thru Radiant Translucent Powder SPF 20
4. LANCASTER Sun Protective Water SPF 30
5. NATURA BISSÉ C+C Dry Touch Sunscreen Fluid SPF 50
6. NEUTROGENA Pure & Free Baby Sunscreen Stick SPF 50
7. PETER THOMAS ROTH Max Clear Invisible Priming Sunscreen Broad Spectrum SPF 45
8. SHISEIDO Sports BB SPF 50+ สี Light
9. SUPERGOOP! Daily Dose Hydra-Ceramide Booster SPF 40 Sunscreen Face Oil
10. TARTE SEA Set & Protect Mineral Sunscreen Powder Broad Spectrum SPF 30
11. TOWER 28 BEAUTY SunnyDays SPF 30 Tinted Sunscreen Foundation สี Mulholland
12. ULTRA VIOLETTE Queen Screen Lightweight Skinscreen SPF 50+
CREDITS:
PHOTOS:COURTESY OF COOLA, DR. JARTS+, ILIA, LANCASTER, NATURA BISSÉ, NEUTROGENA, PETER THOMAS ROTH, SHISEIDO, SUPERGOOP, TARTE, TOWER 28 BEAUTY, ULTRA VIOLETTE
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่