ได้คิวลงจอในไทยแล้ว สำหรับภาพยนตร์สายลับ James Bond 007 ‘No Time To Die’ ที่เตรียมเข้าฉายเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับการเผยโฉมนาฬิกา Bond รุ่นล่าสุดของ OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition
เปิดตัวกันด้วยภาพยนตร์สั้นสุดระทึกสำหรับ Bond Watch เรือนล่าสุด ผลงานการออกแบบและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของ OMEGA (โอเมก้า) และ Daniel Craig ที่มาสวมบทบาทสายลับ James Bond 007 เป็นภาคสุดท้ายของเขาใน ‘No Time to Die’ ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในไทยเดือนตุลาคมนี้ โดยนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ก็คือผลงาน Seamaster Diver 300M 007 Edition
25 ปี แห่งความสัมพันธ์ระหว่าง OMEGA และ James Bond
ถึงแม้ว่าจะเป็นนาฬิกาที่ไม่ใช่รุ่นผลิตจำนวนจำกัด แต่ก็เรียกได้ว่ายังคงเป็นที่จับตามองและติดตามเสมอสำหรับเหล่านักสะสม และยิ่งด้วยการเป็นนาฬิการุ่นที่นักแสดงผู้สวมบท Bond 007 ได้มาร่วมออกแบบด้วยตนเอง จากประสบการณ์การเป็นสายลับ 007 ของ Daniel Craig เองด้วยแล้วก็ยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นอีกหลายเท่า ยังไม่นับรวมไปถึงการเสริมด้วยคุณสมบัติและแต่ละรายละเอียดต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่าสายลับและทางการทหารอย่างแท้จริงด้วยแล้วก็ยิ่งน่าติดตามมากขึ้นทีเดียวสำหรับผลงาน Bond Watch รุ่นนี้ และนอกจากนี้ No Time To Die ยังถือเป็นภาคสำคัญของการฉลอง 25 ปี แห่งความสัมพันธ์ระหว่าง OMEGA และ James Bond นับตั้งแต่เริ่มต้นในภาค GoldenEye เมื่อปีค.ศ. 1995 กับนาฬิกาคู่ใจสายลับ 007 รุ่น OMEGA Seamaster Quartz Professional Diver 300M
“เป็นนาฬิกาที่สวมใส่สบายอย่างน่าทึ่ง” Daniel Craig สรุปสั้นๆ แต่ได้ใจความที่เป็นกุญแจและหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้ ที่เขาเองได้มีส่วนร่วมกับการออกแบบในกระบวนการสุดท้ายโดยนำประสบการณ์ของการสวมบท James Bond มาแล้วหลายภาค ซึ่งหากรวม No Time To Die นี้ก็เป็นภาคที่ห้าของเขาแล้วมาใช้ และนั่นส่งผลทำให้นาฬิกา Seamaster Diver 300M 007 Edition เวอร์ชั่นนี้มีคุณสมบัติเด่นๆ เช่นเรื่องของความมีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งทนทานจากการเลือกใช้ไทเทเนียม เกรด 2 มาผลิตเป็นตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.0 มิลลิเมตร รวมถึงสายแบบถักหรือ mesh ทำจากไทเทเนียมเช่นเดียวกัน หรือเลือกได้กับการจับคู่เข้ากับสาย NATO ตกแต่งลายแถบ ซึ่งด้วยความเบาแต่แข็งแกร่งนี้เองที่ตรงกับความต้องการของเหล่าสายลับหรือการเป็นนาฬิกาสำหรับบุรุษทหารหาญอย่าง 007
ส่วนหน้าปัดสีน้ำตาลวินเทจ หรือที่รู้จักกันในหมู่นักสะสมว่า “ทรอปิคัล” (tropical) และวงแหวนขอบตัวเรือนเฉดสีเดียวกันที่ทั้งคู่ทำจากอลูมิเนียม ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มอบภาพความคลาสสิกร่วมสมัย นอกจากนี้ยังตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสารเรืองแสงSuper-LumiNova สีวินเทจเข้ากัน ทั้งบนสเกลดำน้ำ เข็มชี้ทำใ้ห้เป็นสีดำ และเครื่องหมายบอกเวลาต่างๆ บ่งบอกถึงการนำเอาตำนานของนาฬิกาดำน้ำ Diver 300M ที่เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 1993 กลับมาสร้างสรรค์ด้วยสไตล์ใหม่ที่เหมาะกับการใช้งานจริงของเหล่านักดำน้ำ และยังมีดีไซน์ที่ถูกใจสำหรับบรรดาสุภาพบุรุษ โดยเฉพาะการกลายเป็นหนึ่งในนาฬิกาคู่ข้อมือของสายลับ James Bond ด้วย บวกกับการปกป้องหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โค้งโดมใหม่ที่ช่วยเสริมภาพของความบางและปราดเปรียวยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับนาฬิการุ่นมาตรฐานของ Diver 300M
ขณะที่ฝาหลัง NAIAD LOCK ของนาฬิกาปรากฏด้วยการแกะสลักซีรีส์หมายเลขกำกับต่างๆ ตามรูปแบบของการเป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นสำหรับกองทัพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข “0552” ซึ่งเป็นหมายเลขรหัสทางนาวิกโยธิน พร้อมด้วย “923 7697” เป็นหมายเลขสำหรับนาฬิกาของนักดำน้ำ ขณะที่อักษร “A” หมายถึงการเป็นนาฬิกาที่มาพร้อมเม็ดมะยมแบบขันเกลียวล็อก ส่วน 007 แน่นอนว่าเป็นรหัสสายลับของ James Bond และสุดท้ายคือ “62” ที่หมายถึงปีแรกเริ่มของภาพยนตร์สายลับ James Bond อันโด่งดังนั่นเอง
จากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคลาสสิก แต่มีลูกเล่นสไตล์สายลับ ขยับมาสู่หัวใจภายในของนาฬิการุ่นนี้ที่ยังเสริมไว้ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของกลไกการทำงานซึ่งสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้อย่างยอดเยี่ยมสูงสุดถึง 15,000 เกาส์ (gauss) ของ OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8806 โดยทั้งกลไกและนาฬิกาเรือนนี้ได้ผ่านการทดสอบอันเข้มข้นและได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมอย่าง Master Chronometer ที่รับรองทั้งในด้านความเที่ยงตรง สมรรถนะ และการต้านทานสนามแม่เหล็ก โดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติชุดนี้มอบพลังงานสำรองได้ 55 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟังก์ชั่นแสดงชั่วโมง นาที และวินาที รวมถึงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 300 เมตร หรือ 1,000 ฟุต
การทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ Daniel Craig และผู้สร้างภาพยนตร์ในระหว่างการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษของ Bond Watch เรือนนี้ยังส่งอิทธิพลถึงสัมผัสและอารมณ์ความรู้สึกที่ถ่ายทอดได้อย่างดีในฐานะนาฬิกาสำหรับสายลับโดยเฉพาะ ซึ่งนอกเหนือจากหัวใจของความเที่ยงตรงแม่นยำสูงและสมรรถนะอันโดดเด่นของกลไกจักรกลภายในแล้ว ก็ยังมีลูกเล่นสไตล์สายลับซ่อนไว้อีกมากมาย โดยเฉพาะการเลือกจับคู่เข้ากับสายแบบถักทำจากไทเทเนียม พร้อมกับนวัตกรรมหัวเข็มขัดสายปรับระดับได้ หรือการเลือกจับคู่ได้กับสาย NATO ที่ตกแต่งด้วยลายแถบสีน้ำตาลเข้ม สีเทา และสีเบจ พร้อมทั้งการแกะสลักรหัส 007 ไว้บนห่วงสาย นอกจากนี้นาฬิกาแต่ละเรือนยังส่งมอบมากับกระเป๋านาฬิกาทำจากผ้าสไตล์มิลิแทรีสีน้ำตาลสุดเอกซ์คลูซีฟอีกด้วย
การปรากฏตัวของบรรดานาฬิกา OMEGA อีกหลายรุ่น
และทั้ง OMEGA พร้อมกับสายลับรหัส 007 ก็กำลังจะกลับมาโลดแล่นในภารกิจสุดระทึกอีกครั้งในภาพยนตร์ภาคล่าสุดของ No Time To Die ซึ่งจะเข้าฉายในเมืองไทยวันที่ 7 ตุลาคม 2021 นี้ หลังจากที่เลื่อนกำหนดฉายมานานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และในภาพยนตร์ แฟนๆ จะได้เห็นการปรากฏตัวของบรรดานาฬิกา OMEGA อีกหลายรุ่นที่สวมใส่โดยเหล่านักแสดงและตัวละครเด่นๆ ของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น James Bond โดย Daniel Craig ที่ใส่นาฬิกาเรือนใดไปไม่ได้ นอกจาก Seamaster Diver 300M 007 Edition น้ำหนักเบารุ่นล่าสุดนี้ ส่วนสายลับคนใหม่ Nomi ที่สวมบทโดย Lashana Lynch จะสวมนาฬิกา Seamaster Aqua Terra 38 mm กับหน้าปัดสีดำและสายสีดำ และขวัญใจอย่าง Moneypenny ที่รับบทโดย Naomie Harris ซึ่งเธอได้สวมนาฬิกา De Ville Prestige 27.4 mm คู่กับสายหนังฮันเตอร์สีเขียวปรากฏตัวให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF OMEGA
Music: 007 James Bond – Eleven Music No Copyright
Music provided by Eleven Music.
Video Link: https://youtu.be/Zv-hLHFQSCU
Stock Footage: www.videvo.net/profile/aRTHUR
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่