จะเป็นยังไงหากโลกนี้ไม่มี 4 เต่าทอง! ทำความรู้จัก YESTERDAY ภาพยนตร์รักโรแมนติกที่พาเราไปท่องโลกใบใหม่ผ่านบทเพลงระดับตำนานของวงดนตรีอมตะ The Beatles
หากพูดถึงวงดนตรีอมตะของฝั่งอังกฤษ ใครบ้างล่ะจะไม่คิดถึงวงสี่เต่าทอง เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) ผู้ที่ทำให้แว่นทรงกลม ผมยาวแบบแสกกลางแบบสุดเซอร์ รวมถึงเพลงอมตะมากมายไม่ว่าจะเป็น Yesterday, Yellow Submarine, Here Comes The Sun, Strawberry Fields Forever และอีกมากมายกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยหนึ่ง
และแม้จะผ่านเวลามานานหลายสิบปี แต่ชื่อของ จอร์จ แฮร์ริสัน (George Harrison), พอล แม็กคาร์ตนีย์ (Paul McCartney), ริงโก้ สตาร์ (Ringo Starr) และจอห์น เลนนอน (John Lennon) ยังคงเป็นตำนานที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน
เหตุนี้เองที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Yesterday (2019) ผลงานการกำกับของ แดนนี บอยล์ (Danny Boyle) ที่กำลังจะเข้าฉายบน Netflix ดึงดูดใจแฟนวง เดอะ บีเทิลส์ แบบเราเข้าอย่างจัง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวขอ แจ็ค มาลิก (Jack Malik) รับบทโดย ฮิเมช พาเทล (Himesh Patel) นักดนตรีต๊อกต๋อยที่ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพของตนเอง แม้จะร้องเพลงเพราะและมีพรสวรรค์ด้านดนตรี แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนสนใจฟังเพลงของเขามากเท่าใดนัก นอกจากชาวแก๊งค์เพื่อนของเขารวมถึง เอลลี (Ellie) รับบทโดย ลิลี เจมส์ (Lily James) เพื่อนสาวคนสนิท
แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกกับแจ็ค เขาประสบอุบัติเหตุจากการโดนรถชนจนโคม่า พร้อมกันนั้นโลกก็เกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่จู่ ๆ ไฟก็ดับพร้อมกันทั้งโลก และหลังจากแจ็คฟื้นขึ้นมา เขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นเพียงคนเดียวบนโลกที่รู้จัก เดอะ บีเทิลส์
นั่นหมายถึงเมื่อเขาร้องเพลงของเดอะ บีเทิลส์ออกมา ก็มีเพียงเขาเองที่รู้จักบทเพลงเหล่านี้ แจ็คจึงค่อย ๆ เริ่มหยิบยืมเอาผลงานเพลงระดับตำนานทั้งหลายมาถ่ายทอดใหม่โดยบอกว่าตนเองคือเจ้าของเพลงผู้เขียนเนื้อร้องและทำนองอันน่าประทับใจนี้ขึ้นมา และเพียงชั่วข้ามคืนแจ็คก็ดังเป็นพลุแตก และนำมาสู่เรื่องราวมากมายต่อจากนั้น
แค่ฟังพลอตเรื่อง หลาย ๆ คนก็อาจจะร้องว้าวแล้ว แต่ Padthai.co คิดว่าแค่นี้อาจจะยังไม่พอ วันนี้เราเลยหยิบเอา 4 เหตุผล ที่ทุกคนควรชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน (บอกเลยว่าไม่มีสปอยเนื้อหาสำคัญนะ ! เราพูดเท่าที่พูดได้เลยจริง ๆ)
1. คุณควรดูหนังเรื่องนี้ถ้า… คุณหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ หรืออยากซึมซับความรู้สึกดีๆ จากการชมเรื่องราวที่น่าประทับใจสักเรื่อง
พลอตเรื่องแบบ What if ที่หยิบเอาวงดังระดับโลกมาต่อยอดและแตกเรื่องราวในโลกคู่ขนานที่ต่างออกไป นอกจากจะเป็นอะไรที่น่าสนใจแล้ว มันยังเจือไปด้วยอารมณ์ขันเล็ก ๆ (ลองจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนไม่รู้จักวัฒนธรรมป๊อปอย่างน้ำอัดลมยี่ห้อ โค้ก หรือเรื่องราวของพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ สิ!)
สำหรับแจ็คที่ไม่เคยได้สัมผัสกับชื่อเสียงหรือความสนใจ การที่เขากลายเป็นเสมือนร่างทรงของเดอะ บีเทิลส์ พาทั้งตัวเขาเองและผู้ชม ผจญภัยไปสู่โลกอีกใบในวันที่ชื่อเสียงและเงินทองพุ่งเข้าชนเขาอย่างรุนแรงในเวลาอันรวดเร็ว
โดยฮิเมช พาเทลได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ชวนให้เราเอาใจช่วย ไม่เฉพาะเรื่องชื่อเสียง ความโด่งดัง การต่อสู้กับอัตตาของตนเอง แต่ยังรวมไปถึงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ เอลลี ผู้เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ใช่แฟน ทั้งหมดนี้ถูกเล่าด้วยเส้นเรื่องที่ชวนให้ติดตาม แต่ในขณะเดียวกันก็ปลอบประโลมจิตใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เราไปพร้อมๆ กัน
2. คุณควรดูหนังเรื่องนี้ถ้า… คุณเป็นคอหนังโรแมนติก
นอกจาก แดนนี บอยล์ ผู้กำกับที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้วในภาพยนตร์ Slumdog Millionaire (2008) ในเรื่องนี้ยังได้มือเขียนบทขั้นเทพอย่าง ริชาร์ด เคอร์ติส (Richard Curtis) เจ้าพ่อหนังรอมคอม (Romantic-Comedy) ระดับตำนานมารับหน้าที่เขียนบทและอำนวยการสร้างในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยประทับใจกับความรักของดาราสาวและหนุ่มร้านหนังสือใน Notting Hill (1999) เคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวความรักหลากหลายรูปแบบใน Love Actually (2003) หรือเคยซาบซึ้งกับเรื่องราวสุดกินใจของทนายหนุ่มที่สามารถย้อนเวลาได้ใน About Time (2013) ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของ ริชาร์ด เคอร์ติส มาแล้วล่ะก็ Padthai.co แนะนำว่า Yesterday ก็เป็นอีกหนึ่งชื่อที่คุณควรจดลงในลิสต์หนังรักที่ห้ามพลาดเลยล่ะ !
3. คุณควรดูหนังเรื่องนี้ถ้า… คุณชอบ Ed Sheeran
เราไม่ได้สปอยล์นะ! เพราะในตัวอย่างภาพยนตร์เราก็จะได้เห็นว่าหนึ่งในนักแสดงที่ปรากฏตัวก็คือ เอ็ด ชีแรน (Ed Sheeran) นักร้องหนุ่มวัย 30 ปี เจ้าของรางวัลแกรมมี่ ผู้เขียนเพลงฮิตอย่าง Shape of You (2017)
แต่เราใบ้ให้ว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ เอ็ด ไม่ได้โผล่มาเพียงแค่หนึ่งหรือสองฉากนะ แต่ตัวละครของเขาค่อนข้างจะมีความสำคัญกับ แจ็ค ซึ่งเป็นตัวละครหลักของเรื่องมากพอดูเลยทีเดียว เราจึงจะได้เห็นเอ็ดที่แสดงเป็นตนเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างน่ารักน่าชังเชียวล่ะ
นอกจากเอ็ดแล้ว แน่นอนว่าเรายังจะได้เห็น เจมส์ คอร์เดน (James Corden) พิธีกรเจ้าของรายการ The Late Late Show with James Corden มารับบทเป็นตนเองด้วยเช่นกัน ! แต่จะมีคนดังคนไหนอีกหรือเปล่าที่มารับบทเป็นตนเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ต้องไปเก็บรายละเอียดกันดูนะ !
4. คุณควรดูหนังเรื่องนี้ถ้า… คุณรัก The Beatles
แน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง! เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มี เดอะ บีเทิลส์ เป็นแกนหลักในการเล่าเรื่อง แต่ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งทีมเขียนบท ทีมเพลง ทีมกำกับศิลป์ รวมถึงนักแสดงยังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดซึ่งเป็นเสมือนการรำลึกถึงและเป็นเกียรติแก่สมาชิกทั้ง 4 ของวง
เราจะได้ฟังเพลงฮิตระดับตำนานที่ทุกคนคิดถึงในรูปแบบใหม่ที่ ฮิเมช พาเทล นำมาถ่ายทอดและเรียงร้อยเอาจิตวิญญาณและแก่นเดิมของแต่ละเพลงใส่กลับเข้าไป แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างมันออกมาเป็นผลงานชิ้นใหม่ที่เป็นเพลงของตัวละครแจ็คเอง รวมถึงการได้กลับไปเยือนถิ่นเก่าของสี่เต่าทองอย่างเมืองลิเวอร์พูลเพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงไปพร้อมๆ กับแจ็คอีกด้วย
และยังมีความลับอีกมากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่หากเราพูด ก็คงจะเป็นการสปอยล์ แต่หากคุณคือคนที่หลงใหลและชื่นชอบใน เดอะ บีเทิลส์ เราเชื่อว่าคุณจะประทับใจกับรายละเอียดมากมายในช่วงองค์ท้ายสุดของภาพยนตร์เรื่องนี้แน่นอน
ชมภาพยนตร์เรื่อง Yesterday พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทยได้บน Netflix วันที่ 3 กันยายนนี้เป็นต้นไป
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF UNIVERSAL AND APPLE CORPS LTD
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
- Blowing in the Wind ละครจีนเรื่องแรกของนนกุล เตรียมฉายลง MONOMAX
- เปิดมัลติเวิร์สอย่างเป็นทางการ ! Spider-Man No Way Home เผยตัวอย่างแรก
- พ่อบ้านสุดเก๋า Live Action เตรียมออกอาละวาด! อวดความเก๋าบน Netflix 29 สิงหาคมนี้
- The Suicide Squad ตำนานบทใหม่ของเหล่าวายร้าย ในสไตล์ของเจมส์ กันน์
- Rurouni Kenshin เรื่องราวของซามูไรพเนจร ฉบับ Liveaction ที่ดัดแปลงมาจากมังงะ