Netflix พาคุณเดินทางอีกครั้งบนรถไฟความยาว 994 โบกี้ที่วิ่งไปทั่วโลกเพื่อคงไว้ซึ่งการมีชีวิตของมนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายหลังโลกกลายเป็นน้ำแข็ง หลังปล่อยตอนแรกของซีรีส์ สโนว์เพียเซอร์ (Snowpiercer) ซีรีส์ไซไฟ-ดิสโทเปียที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์โดย บงจุนโฮ ผู้กำกับมากฝีมือจาก PARASITE ชนชั้นปรสิต
สโนว์เพียเซอร์ในซีซัน 2 เล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากซีซันที่แล้วแบบฉากต่อฉาก หลังจากเกิดการจลาจลและยึดอำนาจจากชนชั้นล่าง เลย์ตัน (รับบทโดย ดาวิด ดิกส์) ขึ้นเป็นผู้นำและประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งและร่างรัฐธรรมนูญอย่างเร็วที่สุดตามวิถีประชาธิปไตย
แต่เหตุการณ์กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อจู่ๆ รถไฟอีกขบวนก็ปรากฏขึ้นบนรางเดียวกัน และไล่กวดตามมาจนทัน และเชื่อมสโนว์เพียเซอร์ให้ติดกันกับรถไฟต้นแบบความยาว 40 ตู้โดยสาร จากผู้สร้างเดียวกันอย่าง บิ๊กอลิซ (Big Alice)
ก่อนจะเปิดเผยให้เห็นตัวละครใหม่อย่าง อเล็กซานดรา คาร์วีล (รับบทโดย โรวัน บลานชาร์ด) ลูกสาวที่เมลานี คิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว รวมทั้งคุณวิลฟอร์ดตัวจริง (รับบทโดย ฌอน บีน) ที่กลับมาเพื่อทวงสโนว์เพียเซอร์คืน
เมื่อท้ายขบวนกลายเป็นพื้นที่ชายแดนและทำให้สโนว์เพียเซอร์อยู่ในสถานะที่ตกเป็นรองทางการเมือง เลย์ตันจึงจำใจต้องประกาศให้ชาวสโนว์เพียเซอร์ทราบข่าวร้าย ว่าคณะรัฐบาลชั่วคราวจำเป็นต้องประกาศใช้กฏอัยการศึกต่อไป
หากซีซีนแรกของสโนว์เพียเซอร์คือซีรีส์ที่พูดถึงชนชั้นและการปฏิวัติของแรงงาน ในซีซันที่สองนี้ก็จะทำให้เราได้เห็นว่าในประเทศที่การเมืองภายในกำลังระส่ำระส่าย การแทรกแซงและเข้ามามีบทบาทของประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ในภาคนี้เราจะได้เห็นเรื่องราวในแง่มุมอื่นของเมลานี (รับบทโดย เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) มากขึ้น รวมถึงการเข้ามามีบทบาทที่มากขึ้นของตัวละครอย่าง รูธ วาร์เดลล์ (รับบทโดย อลิสัน ไรท์) พนักงานต้อนรับผู้ยังคงภักดีต่ออำนาจเก่าอย่างคุณวิลฟอร์ด และพยายามจะลดความชอบธรรมในการขึ้นเป็นผู้นำของเลย์ตัน ที่ชวนให้เราสงสัยว่านี่อาจเป็นชนวนแก่การลุกขึ้นต่อต้านครั้งใหม่หรือไม่
นับว่าเป็นการต่อยอดที่มาได้ไกลพอสมควรเลยทีเดียวจากภาพยนตร์ต้นฉบับของบงจุนโฮ ที่เน้นเล่าเรื่องการต่อสู้ทางชนชั้นและเสียดสีสังคม แต่ซีรีส์พาเราไปไกลกว่านั้น ด้วยการพูดกว้างไปถึงเรื่องสมดุลย์ของทรัพยากร การเมืองทั้งในและนอกประเทศ ไปจนถึงการแทรกแซงกฏหมายเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นบนรถไฟ
สโนว์เพียเซอร์ฉบับซีรีส์นี้ได้บงจุนโฮ ผู้กำกับเจ้าของเวอร์ชั่นภาพยนตร์ มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง ร่วมกับเกรแฮม แมนสัน (Graeme Manson) โปรดิวเซอร์ชาวแคเนเดียน ที่โด่งดังจากผลงานซีรีส์ไซไฟอวกาศอย่าง Orphan Black
โดยดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจาก สโนว์เพียเซอร์ ฉบับภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันเมื่อปี 2013 และนำมาขยายจักรวาล เพื่อตอกย้ำถึงความเหลื่อมล้ำและไม่เท่าเทียมกันระหว่างชนชั้น ทั้งในแง่ของการเข้าถึงทรัพยากร การดำรงชีวิต ไปจนถึงการมีสิทธิจะคิดฝันถึงอนาคตบนรถไฟขบวนนี้
และดึงเอาเจ้าพ่อละครเวที ดาวิด ดิกส์ (Daveed Diggs) เจ้าของรางวัลแกรมมี่และโทนี่จากเรื่อง Black-ish และ Hamilton มาประกับคู่เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี (Jennifer Connelly) นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์จาก A Beautiful Mind ในบทบาทของอังเดร เลย์ตัน อดีตสายสืบที่ถูกขอร้องให้มาไขคดีฆาตกรรมบนรถไฟ และเมลานี คาร์วิลล์ วิศวกรสาวที่กุมความลับบางอย่างของสโนว์เพียเซอร์ไว้
แต่อาจจะเร็วไปหากจะตัดสินซีรีส์ในซีซันนี้หลังจากได้ชมตอนแรกเพียงตอนเดียว เรื่องราวบนรถไฟขบวนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ชมตอนใหม่ของซีรีส์ Snowpiercer ซีซัน 2 ทั้งในรูปแบบบรรยายไทย และพากย์ไทยได้บน Netflix ได้พร้อมกันทุกวันอังคาร!
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่