adidas 4D ปล่อย 4DFWD เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ จากรูปแบบทั้งหมด 5 ล้านรูปแบบ พร้อมเฉดสีใหม่สำหรับ TOKYO COLLECTION !
adidas 4D โครงตาข่ายแต่ละชิ้นจะเชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายเพื่อช่วยให้ควบคุมจังหวะการลงเท้าได้อย่างแม่นยำ พื้นชั้นกลางแบบ โฟร์ดี (4D) ที่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ช่วยซับแรงกระแทกจากทุกส่วนของเท้า โฟร์ดีฟอร์เวิร์ด (4DFWD) สร้างขึ้นด้วย โครงสร้างตาข่าย ผลิตจากวัสดุชีวภาพ 39% เพิ่มคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกที่ดีขึ้น 23% และช่วยส่งเสริมแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ดีกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นรองเท้า โฟร์ดี รุ่นก่อนๆ จากการทดสอบด้วยแรงกดในแนวตั้งจากเครื่องจักร นวัตกรรมพื้นรองเท้า เทคโนโลยี FWD CELL รูปทรงหูกระต่ายที่ช่วยให้การเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการก้าวเท้าให้เกิดแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า ตัวรองเท้าแบบ PRIMEKNIT+ คือการนำข้อมูลที่รวบรวมมาใช้ในการขึ้นโครงสร้างของตัวรองเท้าที่ทำจากวัสดุ PRIMEKNIT+ ซึ่งจะมาประสานการทำงานร่วมกับพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดได้อย่างลงตัว จึงทำให้นักวิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงการวิ่ง ที่รองเท้ามีความกระชับพอดีเท้าและการระบายอากาศที่ดีในทุกจังหวะที่ก้าวไปข้างหน้า พื้นรองเท้าชั้นนอก พื้นรองเท้าทำจากยางที่ช่วยเสริมคุณสมบัติการยึดเกาะกับพื้น ซึ่งทำงานร่วมกับพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้ำหนัก: 333 กรัม (ขนาด 8.5UK)
อาดิดาสได้ร่วมมือกับ คาร์บอน (Carbon) ในการพัฒนาพื้นรองเท้า โฟร์ดี มีลักษณะโครงตาข่ายโดยนำเอาข้อมูลที่รวบรวมจากนักกีฬามาผสมผสานกับเทคโนโลยี Carbon’s Digital Light Synthesis ขึ้นรูปพื้นรองเท้าแบบ 3 มิติอย่างแม่นยำ จึงทำให้ adidas 4D เป็นรองเท้าคู่แรกในโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการออกแบบพื้นรองเท้าให้เหมาะกับการเคลื่อนที่ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ส่งผลให้นักกีฬาสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกย่างก้าว โฟร์ดีฟอร์เวิร์ด ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตดังกล่าวจนได้พื้นรองเท้าที่มีลักษณะโครงตาข่าย จากรูปแบบทั้งหมด 5 ล้านรูปแบบ และผลิตขึ้นจากวัสดุทางชีวภาพถึง 39% มี FWD CELL ที่คล้ายกับรูปหูกระต่าย
แซม แฮนดี้ (SAM HANDY) รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์วิ่ง กล่าวว่า “การทำวิจัยเป็นเวลาหลายปี รวมถึงความคิดเห็นจากทั้งนักกีฬาและผู้บริโภค ช่วยให้เราสามารถนำเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ มาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้เรามีโอกาสในการทดสอบ ปรับแก้และปรับปรุงผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ” ทั้งยังได้กล่าวอีกว่า “เราออกแบบพื้น adidas 4D ใหม่เกือบทั้งหมดเพื่อให้น้ำหนักลดลง รับแรงกระแทกได้มากขึ้นและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้กับผู้สวมใส่”
อัลแบร์โต อุนชีนี มังกาเนลลี (Alberto Uncini Manganelli) รองประธานอาวุโสของอาดิดาส และผู้จัดการทั่วไปของอาดิดาส รันนิ่ง กล่าวว่า “อาดิดาส มีความตั้งใจที่จะผสานข้อมูลที่ได้จากนักกีฬากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับวิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ซึ่งเราตั้งใจจะใช้วิธีการดังกล่าวในการมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของนักวิ่งแต่ละคน อันนำมาซึ่งความประทับใจในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ต้องการวิ่งให้เร็วขึ้น ต้องการพิชิตเป้าหมายส่วนตัว ต้องการเพิ่มระยะทางในการวิ่ง หรือต้องการความรู้สึกสบายที่มากขึ้น ซึ่งเราพยายามมอบสิ่งใหม่ๆ ให้นักวิ่งได้สัมผัสอยู่เสมอ สำหรับนวัตกรรมที่ใช้ในการสร้างพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ด ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกนั้นถือเป็นนวัตกรรมการพิพม์พื้นรองเท้าแบบดิจิตอลที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีโฟร์ดีในด้านการเปลี่ยนวัสดุที่จับต้องได้ และการศึกษาทางชีวกลศาสตร์ให้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน พวกเราอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นให้แก่นักวิ่งผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ชิ้นนี้”
THE TOKYO COLLECTION : เพอร์ฟอร์แมนซ์แวร์สำหรับกีฬาหลากประเภท ถูกออกแบบขึ้นเพื่อฉลองให้กับคุณค่าสูงสุดของการให้ความสำคัญต่อความหลากหลายอย่างเท่าเทียมกันและชุมชนของกีฬา คอลเลกชั่นซึ่งใช้นวัตกรรมเครื่องแต่งกายกีฬาของอาดิดาสตลอด 70 ปีที่ผ่านมาเป็นต้นแบบ และเป็นคอลเลกชั่นที่รวมเอาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดของแบรนด์อย่าง อวานตี สไปค์ (Avanti Spike), อาดิดาส โฟร์ดีฟอร์เวิร์ด (adidas 4DFWD), แบร์ริเคด (Barricade) และ อัลทราบู๊สต์ 21 (Ultraboost 21) เข้าไว้ด้วยกัน ในคอลเลกชันนี้มีทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าสำหรับทุกประเภทกีฬา ทีม และนักกีฬา แต่ละชิ้นใช้สีแดงโซลาร์เรด (Solar Red) สีเมฆขาว (Cloud White) และสีดำ (Core Black) มาสร้างสีสัน เพื่อสื่อถึงความเป็นผู้บุกเบิกทางด้านชุดกีฬาของเรา เเละเพื่อฉลองไอเดียของการก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ไปพร้อมกันผ่านผลิตภัณฑ์ 85 ชิ้น สำหรับ 17 ประเภทกีฬา เช่น กรีฑา ยกน้ำหนัก มวยสากล เทนนิส วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ปั่นจักรยาน และสเก็ตบอร์ด
4DFWD TOKYO
รองเท้าวิ่งที่สร้างสรรค์โดยนักกีฬา เพื่อนักกีฬา เพื่อความลื่นไหลทุกย่างก้าว การออกแบบที่ดีเริ่มต้นจากการตั้งคำถามทุกครั้ง สำหรับ 4DFWD อาดิดาสได้ตั้งคำถามว่า เราสามารถนำข้อมูลมาพัฒนารองเท้าวิ่งให้ใส่วิ่งสบายยิ่งขึ้นได้ไหม โดยได้ศึกษาการก้าวเท้าของนักวิ่งหลายพันคน แล้วจึงปรับแต่งพื้นชั้นกลางโพรงตาข่ายให้รองรับเท้าและซับแรงกระแทกได้ตรงจุด เป็นการสานต่อนวัตกรรมของ adidas 4D โดยเจาะลึกลงไปในรายละเอียดให้ลึกยิ่งขึ้น ทั้งยังมีส่วนหุ้มส้นรองเท้าที่ช่วยประคองเท้าให้ก้าวไปข้างหน้าได้สบายยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ผลิตจาก Primegreen ซึ่งเป็นกลุ่มวัสดุรีไซเคิลประสิทธิภาพสูง อัปเปอร์มีวัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ 50% และไม่มีส่วนประกอบของโพลีเอสเตอร์ใหม่เลยแม้แต่น้อย คุณสมบัติของ 4DFWD TOKYO ด้วยอัปเปอร์ยืดหยุ่นชนิดพิเศษทำจากผ้า adidas Primeknit รองรับแรงกระแทก ด้านในรองเท้าซับด้วยผ้า พื้นชั้นกลางแบบ adidas 4D พื้นชั้นล่างทำจากยาง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF adidas
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
- Nike Rawdacious รองเท้าสำหรับ Olympic 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และ Nike SB x Gundam Dunk
- Louis Vuitton x Nike Air Force 1 และไอเทมสุดเท่ จากคอลเลกชั่นเสื้อผ้าผู้ชาย Spring-Summer 2022
- Jordan Zion 1 รองเท้าบาสซิกเนเจอร์รุ่นแรกจาก Zion Williamson นักบาสดาวรุ่งคนใหม่!
- Adidas x Allbirds ปล่อยรองเท้ารักษ์โลก FUTURECRAFT.FOOTPRINT ลดปริมาณคาร์บอน ฟุตพริ้นต์
- adidas Originals by Craig Green รองเท้าดีไซน์ใหม่จากโมเดล ZX
- Move to Zero คอลเลคชั่นพิเศษจาก Nike เพื่อลดปริมาณคาร์บอนและของเสียเพื่อความยั่งยืน
- Adidas R.Y.V. คอลเลกชั่นใหม่จาก Adidas Original โดยได้ BLACKPINK ร่วมแคมเปญ “Watch Us Move”
