ใกล้เข้ามาแล้วกับ Tokyo 2020 Olympic Games พร้อมทั้งการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่สำหรับการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ของ OMEGA Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 ด้วยตัวเรือนเยลโลโกลด์ทั้งเรือน
OMEGA: Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 Olympic games สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ Tokyo 2020 Olympic Games ที่ล่าสุดญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อ แต่เป็นแบบไร้ผู้ชมในสนาม ตามมาตรการการควบคุมอย่างเข้มข้นและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะไร้เสียงกองเชียร์ แต่เชื่อว่าสปิริตของนักกีฬานั้นก็ยังคงไม่แผ่วลงไป
เช่นกันกับโอเมก้า (OMEGA) ในฐานะแบรนด์นาฬิกาที่อยู่คู่กับแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินี้มาอย่างยาวนานที่พร้อมเดินหน้าต่อในการทำหน้าที่ผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันครั้งนี้ และล่าสุดยังได้เปิดตัวนาฬิกาเรือนทองรุ่นใหม่ในสองเวอร์ชั่นพิเศษของ Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 Gold Editions ตัวแทนของรางวัลเหรียญทองอันยิ่งใหญ่ของการแข่งขันที่เป็นยอดปรารถนาสูงสุดของเหล่านักกีฬาจากแต่ละชาติ โดยนาฬิกาทั้งสองเวอร์ชั่นนี้ผลิตขึ้นจากเยลโลโกลด์ 18 กะรัต ทั้งเรือน
OMEGA สวมบทบาทการเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการ หรือ Official Timekeeper ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เกมส์ มานับตั้งแต่ปีค.ศ. 1932 และจะทำหน้าที่เดียวกันนี้เป็นครั้งที่ 29 ณ การแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020 ซึ่งมีกำหนดการจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2021 นี้ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นการแข่งขันแบบไร้ผู้ชมในสนาม ตามสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และด้วยมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
Seamaster Aqua Terra
เมื่อการแข่งขันงวดเข้ามาทุกที OMEGA จึงแสดงความพร้อมสำหรับทำหน้าที่การจับเวลาการแข่งขันด้วยความเที่ยงตรงแม่นยำเหมือนเช่นที่ได้รับเกียรติให้สวมบทบาทนี้มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังเอาใจแฟนๆ กีฬาด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ออกมาช่วยเติมสีสันให้กับการแข่งขันอีกครั้ง กับผลงานจากคอลเลกชั่น Seamaster Aqua Terra ซึ่งในรุ่นใหม่นี้นำเสนอผ่านตัวเรือนขนาด 38.0 มิลลิเมตร และ 41.0 มิลลิเมตร ทั้งคู่รังสรรค์ขึ้นจากเยลโลโกลด์เปล่งประกายสีทองเรืองรอง และเหมือนเช่นเคยที่ OMEGA ได้ใช้ทอง 18 กะรัต ซึ่งนับเป็นมาตรฐานระดับพรีเมียมของวัสดุที่นำมาใช้สร้างสรรค์นาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณี พร้อมทั้งความกลมกลืนสมดุลระหว่างงานดีไซน์อันบริสุทธิ์และเหมาะกับการใช้งานสูงสุดของคอลเลกชั่น Seamaster Aqua Terra
หากยังจำกันได้ ในปีค.ศ. 2019 OMEGA ได้ปล่อยตัวนาฬิกา Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 Limited Edition ออกมาเป็นรุ่นเคาท์ดาวน์สู่โอลิมปิก เกมส์ 2020 มาแล้ว โดยในรุ่นก่อนหน้านั้นนำเสนอด้วยสไตล์สปอร์ตคลาสสิกและถือเป็นนาฬิการุ่นแรกของคอลเลกชั่นที่เปิดตัวแนะนำด้วยหน้าปัดเซรามิก ซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากเซรามิกสีน้ำเงินตกแต่งด้วยงานขัดเงาและแกะสลักเลเซอร์ด้วยสัญลักษณ์ Tokyo 2020 Olympic Games มาพร้อมกับตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร ซึ่งต่างจากรุ่นล่าสุดนี้เพราะเป็นตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล รวมถึงฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ประทับด้วยโลโก้ของ Tokyo 2020 Olympic Games ไว้เช่นกัน สำหรับรุ่นสเตนเลสสตีลของปีค.ศ. 2019 นี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 2,020 เรือน และจับคู่มากับสายยางสีน้ำเงินตกแต่งลาย รวมไปถึงส่งมอบพร้อมกับสายสเตนเลสสตีลอีกหนึ่งเส้นภายในกล่องบรรจุนาฬิกา
พร้อมๆ กันคือการเปิดตัวอีกหนึ่งรุ่นเด่นสำหรับ Tokyo 2020 Olympic Games คือรุ่น Seamaster Planet Ocean Tokyo 2020 Limited Edition ซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 2,020 เรือน แตกต่างด้วยความโดดเด่นของสไตล์นาฬิกาดำน้ำแห่ง Seamaster Planet Ocean ซึ่งรุ่นพิเศษนี้รังสรรค์ขึ้นในตัวเรือนขนาด 39.5 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสสตีล ตัดกับขอบตัวเรือนบรรจุวงแหวนเซรามิกสีขาว พร้อมด้วยสเกลดำน้ำทำจาก OMEGA Liquidmetal™ โดยอุทิศให้กับปีของ Tokyo 2020 ด้วยตัวเลข 20 บนขอบตัวเรือน ที่เติมด้วยลิควิดเซรามิกสีแดงเด่น รวมถึงเครื่องหมายจุดสีแดงเคลือบเงาบนปลายเข็มวินาทีกลางสไตล์ lollipop ที่เป็นตัวแทนของธงชาติญี่ปุ่นไว้อย่างสวยเด่น รุ่นนี้ขับเคลื่อนโดยกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8800
รวมถึงเมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา กับการเปิดตัวนาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M Tokyo 2020 เพื่อร่วมเคาท์ดาวน์ 100 วันสู่โอลิมปิก เกมส์ อีกครั้ง โดยเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นด้วยธีมสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ของ Tokyo 2020 Olympic Games พร้อมทั้งเทคโนโลยีการประดิษฐ์นาฬิกาอีกมากมาย ภายใต้สไตล์สปอร์ตเด่นของตัวเรือนขนาด 42.0 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสสตีลและประกอบวงแหวนบนขอบตัวเรือนทำจากเซรามิกสีน้ำเงิน เติมด้วยสเกลดำน้ำเป็นงานลงยาสีขาว จับคู่มากับสายสเตนเลสสตีลขัดเงาและขัดด้านที่ผสานเข้ากับตัวเรือน เพิ่มมิติด้วยหน้าปัดเซรามิกสีขาวขัดเงา แกะสลักเลเซอร์เป็นลายคลื่น บรรจุช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และชื่อ Seamaster เป็นสีแดงเด่น ส่วนเข็มชี้และเครื่องหมายขีดสีน้ำเงินลงตัวกับดีไซน์หน้าปัดและเติมด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว ปกป้องด้วยกระจกแซฟไฟร์เช่นเดียวกับบนฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ประทับด้วยสัญลักษณ์ของโอลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้
จวบจนการเปิดตัวล่าสุดของรุ่น Gold Editions ใหม่สำหรับ Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 เพื่อต้อนรับก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นเร็วๆ นี้ ได้เติมความโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยตัวเรือนเยลโลโกลด์ 18 กะรัตผ่านการขัดแต่งอย่างประณีต ที่จับคู่มากับสายหนังสีน้ำเงิน รวมถึงหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงาแกะสลักด้วยเลเซอร์เป็นลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ของ Tokyo 2020 Olympic Games ขณะที่โลโก้แบบเต็มยังประทับไว้บนฝาหลังนาฬิกา ส่วนภายในนาฬิกาแต่ละเรือนของรุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer calibre ซึ่งรับประกันถึงมาตรฐานระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมเรือนเวลาสวิสในแง่ของความเที่ยงตรง สมรรถนะ และการต้านทานแม่เหล็กได้อย่างดีเยี่ยม
โดยหนึ่งในบุคคลกลุ่มแรกๆ ที่มีโอกาสได้สวมใส่เรือนเวลาใหม่นี้ ยังรวมไปถึง Michael Phelps นักกีฬาว่ายน้ำผู้ครองเหรียญรางวัลโอลิมปิกสูงสุดในประวัติศาสตร์กับเหรียญโอลิมปิก เกมส์ที่เขาได้ครอบครองไว้ถึง 28 เหรียญ รวมถึงเหรียญทองทั้งหมด 23 เหรียญ ขณะที่ Michael เองยังเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแบรนด์ OMEGA มานับตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 และเป็นที่รู้จักจากบทบาทอันสำคัญในฐานะนักกีฬาผู้สะท้อนถึงความเที่ยงตรงแม่นยำอันเป็นหัวใจ ซึ่งพวกเขานั้นต่างทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนา ฝึกฝน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของการเป็นนักกีฬาโอลิมปิก รวมทั้งการผลักดันตนเองเพื่อก้าวไปสู่ขีดความสามารถและความท้าทายใหม่ๆ ที่แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เพียงความมุ่งมั่นอุตสาหะเท่านั้น แต่ถือเป็นจิตวิญญาณอย่างหนึ่งที่เหล่านักกีฬาต้องมีเช่นเดียวกันกับเขา
สำหรับ Seamaster Aqua Terra Tokyo 2020 Gold Editions นี้มาพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ของ OMEGA และส่งมอบให้กับลูกค้าและนักสะสมภายในกล่องนาฬิกาออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับนาฬิกา Gold Editions นี้โดยเฉพาะ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF OMEGA
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่