เป็นโอกาสที่หาได้ไม่ง่ายนัก กับการจับมือของสองศิลปินชั้นนำของวงการนาฬิกา อย่าง Louis Erard และ Alain Silberstein ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานรุ่นพิเศษสุดใน Le Triptyque ไอเทมเด็ดที่นักสะสมไม่ควรพลาด!
Louis Erard x Alain Silberstein: Le Triptyque 2021 ภาพของเข็มนาฬิการูปทรงแปลกตาและสีสันสดใสอาจเป็นที่คุ้นตากันอย่างดีในหมู่นักสะสมนาฬิกาทั่วโลก และยิ่งเมื่อเอ่ยชื่อของ Alain Silberstein ด้วยแล้ว ก็แทบไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เพราะเขานั้นคือศิลปินและนักออกแบบระดับตำนานของวงการนาฬิกาอีกหนึ่งคน
ขณะที่ภายใต้รูปลักษณ์และสไตล์อันคลาสสิกร่วมมือของผู้ผลิตนาฬิกาฝีมือเอก อย่าง หลุยส์ เออราร์ด (Louis Erard) นั้นก็ถือว่ามีชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่คนเล่นนาฬิกาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่เป็นต้นตำรับ บวกกับมาตรฐานคุณภาพด้านกลไกจักรกลที่ Louis Erard ตั้งใจพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดระยะเวลาหลายปีจนเป็นที่จับตามองของบรรดานักสะสมเรือนเวลาจักรกลอีกด้วย
และจะเป็นเช่นไร หากสองชื่อนี้เดินทางมาพบกัน… คงไม่ต้องจินตนาการต่อกันแล้ว เพราะล่าสุดทั้งคู่ได้เผยผลงานสร้างสรรค์สุดพิเศษและยากจะปฏิเสธได้ว่าสวยสะดุดตานับตั้งแต่แรกเห็น กับโปรเจกต์ล่าสุดของ Louis Erard x Alain Silberstein ที่นำมาสู่การเปิดตัวนาฬิกาซีรีส์พิเศษด้วยชื่อว่า ‘Le Triptyque’ โดยประกอบด้วยนาฬิกาทั้งหมดสามรุ่น เหมือนภาพจิตรกรรมที่ปรากฏบนเฟรมสามเฟรมจัดวางเรียงต่อกันด้วยเรื่องราวเดียวกัน ที่สำคัญคือเป็นผลงานการออกแบบขึ้นด้วยซิกเนเจอร์หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ลายเซ็นของศิลปินอย่าง Alain Silberstein ที่ถ่ายทอดไว้ในแทบทุกรายละเอียดของนาฬิกาอย่างชัดเจน พร้อมทั้งผสมผสานด้วยประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงในราคาที่เข้าถึงได้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Louis Erard
สำหรับนาฬิกาสามรุ่นนี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด 178 เรือน ด้วยสนนราคาเริ่มต้นที่ 3,500 สวิสฟรังก์ และ 4,500 สวิสฟรังก์สำหรับรุ่น Le Chrono Monopoussoir ส่วนไฮไลต์สำหรับนักสะสมตัวยงอย่าง Collector’s box นั้นบรรจุภายในด้วยนาฬิกาสามเรือนจากสามรุ่นที่มีจำนวนจำกัด 78 เรือน และนำเสนอด้วยราคาแสนงามที่ 11,111 สวิสฟรังก์ ทว่า จุดเริ่มต้นของการเดินทางมาพบกันในครั้งนี้ของทั้งคู่นั้น แท้จริงแล้วเริ่มมาจากในปีค.ศ. 2019 ที่ Alain Silberstein ได้เข้าไปส่วนร่วมในการปลุกฟื้นตำนานนาฬิกา ‘Le Régulateur’ ซึ่งเป็นผลงานรุ่นสัญลักษณ์และรุ่นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Louis Erard ขึ้นมาใหม่ โดยจากความร่วมมือครั้งนั้น พวกเขาได้เผยโฉมนาฬิการุ่นพิเศษในสองซีรีส์ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 178 เรือน และจำหน่ายหมดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดตัว รวมถึงกลายเป็นที่ตามหาของบรรดานักสะสมอย่างมาก ซึ่งนั่นเกิดขึ้นก่อนที่นาฬิการุ่นนี้จะได้รับเลือกโดยงานประกาศผลรางวัล Grand Prix d’Horlogerie de Genève และยังคว้ารางวัล Red Dot Award: Product Design 2021 มาครองได้อีกด้วย
แสดงวันที่ และวันด้วยรูปสัญลักษณ์ใบหน้ายิ้มต่างๆ
ในปีนี้จึงถือเป็นการเปิดพรมแดนใหม่แห่งความร่วมมือของทั้ง Louis Erard และ Alain Silberstein ที่มีดีกรีความน่าสนใจไม่แพ้ผลงานรุ่นพิเศษก่อนหน้านั้น โดยเปิดตัวด้วยผลงาน Le Triptyque ซึ่งสื่อถึงนาฬิกาที่เปรียบเหมือนกับงานศิลปะชั้นสูงทั้งสามรุ่นสามเรือน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากลายเซ็นการออกแบบเชิงศิลป์ของ Alain Silberstein เช่นเดียวกับผสมผสานความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์นาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Louis Erard โดยแต่ละรุ่นนั้นจะผลิตขึ้นจำกัด 178 เรือน และ 78 เรือนในนี้จะถูกจำหน่ายภายในเซ็ต Collector’s box ซึ่งประกอบด้วยผลงานทั้งสามเรือนจากสามรุ่น เช่นเดียวกับงานดิจิทัลอาร์ตเวิร์คพร้อมลายเซ็นของตัวศิลปินเอง นอกจากนี้ เจ้าของผู้ได้ครอบครองนาฬิกาทั้ง 78 เรือน ภายใน Collector’s box ยังจะได้รับดิจิทัลโทเคน (digital token) ที่เชื่อมโยงกับผลงานที่พวกเขาครอบครอง และเป็นการรับประกัน รวมถึงรับรองความเป็นของแท้ของนาฬิการุ่นพิเศษนี้ด้วย พร้อมทั้งบรรจุไว้ด้วยคุณสมบัติจำเพาะต่างๆ ทางเทคนิคของเรือนเวลา ขณะที่เจ้าของนักสะสมยังมีโอกาสได้เลือกบรรจุข้อมูลหรือข้อความส่วนตัวไว้ในดิจิทัลโทเคนเฉพาะตัวของพวกเขาที่จะเป็นความพิเศษเฉพาะหนึ่งเดียวและอยู่เหนือกาลเวลา ซึ่ง Louis Erard เองถือเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสวิสเจ้าแรกๆ ที่นำเสนอด้วยเทคโนโลยีนี้
สำหรับแสดงนาที และเครื่องหมายทรงสามเหลี่ยมแสดงชั่วโมงบนหน้าปัดเยื้องศูนย์
นาฬิกาทั้งสามรุ่นของ Le Triptyque ยังเป็นการดึงเอาเอกลักษณ์และต้นแบบเฉพาะตัวของสามรุ่นเด่นสูงสุดจาก Louis Erard มารังสรรค์ขึ้นพิเศษ ได้แก่ La Semaine, Le Régulateur II และ Le Chrono Monopoussoir กับขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงานทั้งหมดที่เริ่มต้นด้วยตัวเรือนที่เปรียบเหมือนผืนผ้าใบเปล่าสำหรับศิลปิน และประกอบด้วยเฟรมของขอบด้านข้างในแนวตั้งที่เรียกกันว่า ‘brancards’ ผสานด้วยเม็ดมะยมทรงกรวย ซึ่งเป็นโครงสร้างด้วยรูปแบบอันบริสุทธิ์ที่พร้อมจะเป็นฉากหลังให้กับการสร้างสรรค์องค์ประกอบของภาพอันโดดเด่นสะดุดตาตามสไตล์ของศิลปินเอง
ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเป็นการสร้างสรรค์ด้วยภาพที่ตัดกันระหว่างสีสันสดใส ด้วยรูปทรงที่แปลกตา และประกอบด้วยวัสดุคุณภาพและงานการตกแต่งที่ตัดกัน แต่คงความประณีตละเอียดอ่อน ซึ่งในนาฬิกาทั้งสามรุ่นนี้ทำขึ้นจากวัสดุไทเทเนียม เกรด 2 และเกรด 5 พร้อมทั้งการตกแต่งระหว่างไมโครบลาสต์และขัดเงา และประกอบคู่มากับสายไนลอนที่สวมใส่ได้สบายข้อมือ ด้วยความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดีและนำ้หนักเบา กับตัวล็อกสายได้อย่างกระชับและสะดวก ขณะที่นาฬิกาเหล่านี้ยังกันน้ำได้ลึกระดับ 100 เมตร
ส่วนฝีแปรงที่ศิลปิน Alain Silberstein ได้ฝากไว้ในนาฬิกาทั้งสามรุ่นนั้นยังมีความแตกต่างกันด้วยสไตล์ ฟังก์ชั่น กลไก และแม้แต่การบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน เช่นในรุ่น La Semaine Louis Erard x Alain Silberstein มาพร้อมการแสดงเวลาแบบสามเข็ม แสดงวันที่ และบอกวันด้วยเอกลักษณ์จากผลงาน weekly planner ที่พัฒนาขึ้นโดย Alain Silberstein อันเป็นที่จดจำได้ทันที ซึ่งเป็นการแสดงวันประจำสัปดาห์ที่ไม่ปรากฏชื่อ แต่เป็นรูปใบหน้ายิ้มต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงอารมณ์ที่ต่างกัน และชวนให้เรานึกถึงเวลาที่เดินไปข้างหน้า พร้อมกับสร้างประสบการณ์ อารมณ์และความรู้สึกที่วิวัฒนาการขึ้นในแต่ละวัน เช่นจาก ‘grey Monday’ ไปจนถึง ‘radiant Sunday’ หรืออาจจะกลับกันขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของผู้สวมใส่
Le Régulateur Louis Erard x Alain Silberstein II
ขณะที่รุ่นถัดมาของ Le Régulateur Louis Erard x Alain Silberstein II นั้น เป็นอีกครั้งที่ซิกเนเจอร์ของศิลปินได้มาปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นั่นคือเข็มทรงลูกศรสีฟ้าขนาดใหญ่สำหรับแสดงนาที กับเครื่องหมายทรงสามเหลี่ยมสำหรับแสดงชั่วโมงบนหน้าปัดเยื้องศูนย์ และเข็มทรงคดเคี้ยวเล็กๆ ในโทนสีเหลืองสำหรับแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็ก ที่สื่อสารถึงภาษาของการบอกเวลาอันสนุกสนาน เต็มไปด้วยสีสันและมีความซนแบบเด็กๆ ซ่อนอยู่ในตัว ขณะเดียวกันศิลปินก็ได้แฝงไว้ด้วยปรัชญาเชิงศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะภายในผลงานของตนทั้งหมด ทั้งการเล่นกับสัดส่วนและอ้างอิงถึงศิลปะสไตล์ Bauhaus ไปจนถึงประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยของการประดิษฐ์นาฬิกา
ส่วนรุ่นสุดท้ายนั้นเป็นงานออกแบบนาฬิกาโครโนกราฟขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยศิลปินรับเชิญคนนี้ ในรุ่น Le Chrono Monopoussoir Louis Erard x Alain Silberstein ที่มาพร้อมการแสดงชั่วโมงและนาทีด้วยเข็มชี้กลาง และเข็มวินาทีโครโนกราฟกลาง ขณะที่หน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที จัดวางไว้ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเหมือนกับรุ่น La Semaine ที่นักออกแบบได้เติมลูกเล่นของเข็มชั่วโมงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาไว้ในรุ่นนี้ด้วย นั่นคือเข็มทรงกลมสีแดงกับปลายทรงสามเหลี่ยมสีแดงสำหรับชี้บอกเวลา
Louis Erard x Alain Silberstein: Le Triptyque 2021
“A watch is a search for harmony” Alain Silberstein เผย พร้อมทั้งกล่าวว่านาฬิกาเหล่านี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อปลุกความเป็นเด็กภายในตัวเราทุกคน และงานของเขานั้นจบลงทันทีที่พวกมันสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับใครสักคนได้ และหากไม่ใช่พันธมิตรอย่าง Louis Erard แล้ว เป้าหมายนี้คงไม่อาจประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้
สำหรับผลงานจากความร่วมมือกับนักสร้างสรรค์รับเชิญคนอื่นๆ จาก Louis Erard นั้นยังตั้งเป้าหมายไว้ด้วยการผลิตเป็นซีรีส์พิเศษในจำนวนจำกัดเพียง 178 เรือน ซึ่งเป็นตัวเลขสัญลักษณ์สื่อถึงการผนึกความร่วมมือที่นำไปสู่ความเข้มแข็งและพลังสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF LOUIS ERARD
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
MUSIC: from mixkit.co
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
