คุณสมบัติใหม่ที่มองข้ามไม่ได้อย่าง Integrated day/night indicator เข้ามาช่วยเติมเต็มหน้าตาและความสมบูรณ์ให้กับนาฬิกาแสดงปฎิทินถาวรรุ่นนี้ได้อย่างลงตัว
A. Lange & Söhne: Lange 1 Perpetual Calendar นับตั้งแต่แรกเริ่ม นาฬิกา LANGE 1 PERPETUAL CALENDAR ของ เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ (A. Lange & Söhne) ถือเป็นผลงานอีกหนึ่งรุ่นที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของรูปลักษณ์หน้าตาและความครบเครื่องของฟังก์ชั่น กับการประกอบด้วยความสลับซับซ้อนของกลไกจักรกลแสดงปฏิทินถาวร หรือ Perpetual calendar พร้อมทั้งรูปแบบการแสดงข้อมูลเวลาและข้อมูลปฏิทินต่างๆ ที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้หน้าตาของนาฬิกาสลับซับซ้อนรุ่นนี้มีทั้งเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
โดยเอกลักษณ์เด่นๆ นั้นล้วนมาจากการจัดวางเลย์เอาท์หน้าปัดที่ลงตัวและไม่ดูยุ่งยากในการอ่านค่าทั้งเวลาและข้อมูลปฏิทิน ซึ่งในรุ่นนี้ยังได้จัดวางวงแหวนแสดงเดือนแบบรอบวง ทำให้สามารถแยกการแสดงเดือนไปไว้รอบนอกสุดของหน้าปัดได้อย่างสง่างามและอ่านได้ง่ายชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ในรุ่นก่อนหน้านี้มาพร้อมการแสดงข้างขึ้นข้างแรม หรือ Moon-phase ผ่านช่องหน้าต่างได้อย่างสง่างามโดดเด่น กลมกลืนไปกับรูปแบบของนาฬิกาแสดงปฏิทินถาวร หรือ Perpetual calendar ที่เป็นรุ่นหมายตาและหมายปองของบรรดานักสะสม
ทว่า ล่าสุด A. Lange & Söhne ยังคงเดินหน้าพัฒนาก้าวใหม่ให้กับทายาทของ LANGE 1 PERPETUAL CALENDAR โดยในรุ่นล่าสุดของปีค.ศ. 2021 นี้ไม่เพียงหวนกลับมาปรากฏโฉมพร้อมด้วยตัวเรือนใหม่ทำจากพิงค์โกลด์คู่กับหน้าปัดเงินสีเทา และรุ่นผลิตจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือน กับตัวเรือนไวท์โกลด์คู่กับหน้าปัดพิงค์โกลด์ ที่ให้โทนสีอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแบรนด์ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการเสริมด้วยฟังก์ชั่นพิเศษใหม่ของการแสดงกลางวัน/กลางคืน หรือ Day/night indicator แบบผสานเข้ากับการแสดงข้างขึ้นข้างแรมหรือ Moon-phase ได้อย่างลงตัวและยังคงใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย
หากย้อนกลับไป นับเป็นการบรรจบกับโอกาสครบรอบ 20 ปี พอดีที่ A. Lange & Söhne ได้เปิดตัวแนะนำ LANGEMATIK PERPETUAL นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Perpetual calendar ก่อนจะตามมาด้วยผลงานอีกเจ็ดรุ่นเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการผสมผสานเข้ากับฟังก์ชั่นสลับซับซ้อนอื่นๆ เช่น โครโนกราฟ (Chronograph), ตูร์บิญอง (Tourbillon) หรือแม้แต่ทั้งคู่ กระทั่งได้มีการคิดค้น perpetual calendar ขึ้นใหม่ ที่นอกเหนือไปจากหลักการคลาสสิกทั่วไปของการแสดงปฏิทินที่จะติดตั้งด้วยอุปกรณ์ควบคุมอย่าง 48-step wheel แต่ในการเปิดตัวพร้อมกันกับรุ่น LANGE 1 TOURBILLON PERPETUAL CALENDAR ของปฏิทิน Perpetual calendar แนวคิดใหม่นี้ ได้สร้างความแตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆ โดยเป็นการประกอบและผสานจักรกลของปฏิทินให้เป็นส่วนหนึ่งลงในโครงสร้างสถาปัตยกรรมหน้าปัดแบบเยื้องศูนย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ LANGE 1 โดยไม่เป็นการรบกวนภาพความสมดุลของการจัดวางการแสดงต่างๆ แม้แต่น้อย ด้วยการคิดค้นการแสดงเดือนผ่านวงแหวนซึ่งติดตั้งอยู่รอบวงนอกสุดของหน้าปัด และเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเดือนละครั้ง เพื่อแสดงเดือนได้อย่างแม่นยำและชัดเจน งานออกแบบที่ผ่านการจดสิทธิบัตรนี้ได้เข้ามาแทนที่หลักการควบคุมแบบคลาสสิกทั่วไป และกลายเป็นนวัตกรรมอันท้าทายความสามารถทางเทคนิคที่ A. Lange & Söhne พิชิตได้สำเร็จ
ขณะที่การแสดงเดือนผ่านวงแหวนนี้ยังเติมเต็มความลงตัวด้วยการแสดงวันที่ขนาดใหญ่หรือที่เรียกกันว่า Lange outsize date พร้อมทั้งการแสดงวันประจำสัปดาห์แบบเรโทรเกรด และแสดงปีอธิกสุรทินหรือ Leap-year ผ่านช่องหน้าต่างได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถแยกการแสดงข้อมูลของตนได้อย่างชัดเจน รวมถึงปรับเปลี่ยนและแสดงข้อมูลได้อย่างสอดคล้องแม่นยำ และยังสามารถปรับตั้งได้อย่างง่ายดายทั้งแบบปรับตั้งให้สอดคล้องและปรับตั้งแยกได้ด้วยตัวปรับตั้งต่างๆ และเมื่อทุกอย่างได้รับการปรับตั้งอย่างถูกต้อง ปฏิทินนี้จะสามารถแสดงข้อมูลได้อย่างแม่นยำต่อเนื่องยาวนานไปอีกจนถึงปีค.ศ. 2100
นอกจากปฏิทินถาวรที่เป็นความสลับซับซ้อนหลักของนาฬิการุ่นนี้แล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาจักรกลไม่แพ้กันก็คือการแสดงข้างขึ้นข้างแรมหรือ Moon-phase ซึ่งในทายาทรุ่นใหม่ของ LANGE 1 PERPETUAL CALENDAR ในปีนี้ยังไ้ด้เสริมไว้ด้วยการแสดงกลางวัน/กลางคืนแบบผสานเข้ากับการแสดงข้างขึ้นข้างแรม จากองค์ประกอบสองระดับระหว่างดิสก์ท้องฟ้าซึ่งจะหมุนครบหนึ่งรอบบนแกนของตนเองทุกๆ 24 ชั่วโมง ขณะที่เหนือขึ้นไปคือรูปดวงจันทร์ไม่ว่าจะทำจากไวท์โกลด์หรือพิงค์โกลด์ที่จะหมุนโคจรได้อย่างแม่นยำ และจำเป็นต้องปรับตั้งเพียงหนึ่งครั้งในรอบ 122.6 ปี เท่านั้น โดยเปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ในรุ่น LANGE 1 MOON PHASE ปีค.ศ. 2016 ที่ดวงจันทร์นี้จะปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าสีน้ำเงินอ่อนแบบโมโนโครมในระหว่างกลางวัน และเหนือท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแสดงกลางวัน/กลางคืนได้อย่างน่าชม
นำเสนอภายใต้ตัวเรือนและหน้าปัดสองเวอร์ชั่น คือตัวเรือนขนาด 41.9 มิลลิเมตร และหนา 12.1 มิลลิเมตร ที่ทำจากพิงค์โกลด์คู่กับหน้าปัดเงินสีเทา และรุ่นผลิตจำนวนจำกัด 150 เรือนที่ทำจากไวท์โกลด์คู่กับหน้าปัดทองพิงค์โกลด์ เป็นการผสมผสานวัสดุที่เคยเปิดตัวแนะนำมาแล้วเมื่อปีค.ศ. 2019 กับ DATOGRAPH PERPETUAL TOURBILLON ซึ่งเป็นรุ่นผลิตจำนวนจำกัดเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งความลงตัวของการติดตั้งเข็มชี้และเครื่องหมายบอกเวลาในโทนสีที่สอดคล้องกันของแต่ละเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นที่ทำจากพิงค์โกลด์และเรืองแสงในรุ่นเวอร์ชั่นพิงค์โกลด์หรือทองชุบโรเดียมในเวอร์ชันไวท์โกลด์ เพื่อให้รับกับงานออกแบบของรุ่น ขณะที่ในเวอร์ชั่นไวท์โกลด์มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลเข้ม และรุ่นพิงค์โกลด์จับคู่มากับสไตล์อันคลาสสิกร่วมสมัยของสายหนังสีน้ำตาลแดง
ทั้งสองเวอร์ชั่นของ LANGE 1 PERPETUAL CALENDAR รุ่นใหม่ในปีนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ L021.3 ซึ่งเป็นกลไกผลิตภายในโรงงานของตนเองคาลิเบอร์ที่ 67 โดยพัฒนามาจากคาลิเบอร์ L021.1 ของ LANGE 1 DAYMATIC และได้รับการปรับปรุงจักรกลไขลานใหม่ กับคุณสมบัติทางเทคนิคอันโดดเด่นของคาลิเบอร์นี้ที่ยังรวมไปถึงโรเตอร์ขึ้นลานได้ทิศทางเดียวทำจากทอง 21 กะรัต และถ่วงหนีศูนย์เพิ่มเติมด้วยแพลทินัม โดยมอบพลังงานสำรองได้ 50 ชั่วโมง และการทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง จากการประกอบชิ้นส่วนกลไกรวม 621 ชิ้น และทับทิม 63 เม็ด
กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ L021.3 ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมงกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ L021.3 ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง
บรรจบกับมาตรฐานคุณภาพและความเที่ยงตรงแม่นยำระดับสูงสุด เช่นเดียวกับมาตรฐานงานฝีมือการตกแต่งกลไกจักรกลที่สามารถมองเห็นและชื่นชมได้ผ่านทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ใส ที่เผยให้เห็นชิ้นส่วนหลักๆ ซึ่งผ่านการตกแต่งด้วยมืออย่างประณีตวิจิตรตามแบบต้นตำรับของ A. Lange & Söhne ไม่ว่าจะเป็นแท่นเครื่องและสะพานจักรทำจาก German silver บริสุทธิ์ และตกแต่งด้วย Glashütte ribbing รวมถึงชาตอง (chatons) ทองและสกรูสตีลทำให้เป็นสีน้ำเงินด้วยความร้อน ขาดไม่ได้คือ Balance cock แกะสลักด้วยมือ และ Whiplash spring สำหรับใช้ในการปรับตั้งความถี่กลไก และเหมือนกับกลไกทุกชุด ที่ทุกชิ้นส่วนจะผ่านการประกอบสองรอบ รวมถึงผ่านการขัดตกแต่งด้วยมืออย่างประณีตละเอียดอ่อนและเข้มงวดตามมาตรฐานของ Lange ขณะที่ทั้งวัสดุ สถาปัตยกรรมโครงสร้าง และงานฝีมือการตกแต่งต่างๆ ทั้งหมดยังล้วนต้องสอดคล้องตามงานออกแบบและคงความสมบูรณ์ทางจักรกล จึงทำให้นาฬิกาของ A. Lange & Söhne นั้นสวยสมบูรณ์แบบในทุกๆ มุมมองและเหนือกาลเวลาเสมอ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF A. Lange & Söhne
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
