From Artists to Artistic Dials การออกแบบและความเชี่ยวชาญด้านหัตถศิลป์หลอมรวมไว้ในนาฬิกาได้อย่างสวยงาม
From Artists to Artistic Dials หลายต่อหลายครั้งที่ผลงานของเหล่าศิลปินและนักออกแบบจากต่างสาขาได้มาปรากฏบนหน้าปัดนาฬิกา และสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักะสะสม ได้เก็บครอบครองไว้ในคอลเลกชั่นงานศิลป์ของพวกเขาเช่นกัน
Hermès เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Maison ที่หยิบเอาพรสวรรค์ด้านการออกแบบและความเชี่ยวชาญด้านหัตถศิลป์มาหลอมรวมไว้ในนาฬิกาได้อย่างสวยงามและเป็นที่จดจำได้เสมอ โดยเฉพาะการนำเอาจินตนาการของภาพวาดและภาพกราฟิกโดยเหล่าศิลปินและดีไซเนอร์ซึ่งเคยร่วมงานกับแบรนด์ในการออกแบบผ้าพันคอ มารังสรรค์สู่ความสวยเด่นของหน้าปัดนาฬิกาแล้วหลายต่อหลายเรือน อย่างเช่นในผลงานล่าสุดของ Arceau Soleil ซึ่งไม่เพียงนำเอาตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกของ Arceauกับเอกลักษณ์ของหูสายแบบอสมมาตรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโกลนม้ามาใช้ แต่ยังสร้างความน่าสนใจด้วยเทคนิคพิเศษของการตกแต่งหน้าปัด โดยการแกะสลักเลเซอร์และเคลือบแลกเกอร์แบบไล่โทนสี เพื่อให้เล่นกับแสง เหมือนดั่งรัศมีของแสงตะวันที่ไล่ระดับไปตามค่าต่างของแสง ณ ช่วงเวลาต่างๆ และเรียกชื่อลวดลายนี้ว่า Soleilในรูปแบบเดียวกับที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Fred Rawyler ศิลปินชาวสวิสซึ่งเคยฝากผลงานไว้ในคอลเลกชันผ้าพันคอของ Hermès
ครจะไปเชื่อว่า รอยสักบนเรือนร่างจะกลับกลายมาปรากฏบนหน้าปัดนาฬิกาช้อมือที่มีพื้นที่เล็กจิ๋วแบบนี้ได้ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ทั้ง Hublot และศิลปินนักสักระดับโลก อย่าง Maxime Plescia-Büchi แห่ง Sang Bleu studio ได้ทำงานร่วมกันมาตลอด 4 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของคอลเลกชั่นนาฬิกา Big Bang Sang Bleuในปี 2016 โดยถ่ายทอดศิลปะแห่งการสักอันช่ำชองของเขาไว้บนหน้าปัด เรื่อยไปจนถึงสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวเรือนแบบ 3 มิติ ที่ได้แรงบันดาลใจและดัดแปลงมาจากเทคนิคการสักของ Maxime ล้วนๆ และในรุ่นล่าสุดของ Big Bang Sang Bleu II ยังได้เติมลูกเล่นให้กับศิลปะงานสักบนหน้าปัดนาฬิกา ด้วยการตัดกันระหว่างลวดลายเรขาคณิตที่สะท้อนองค์ประกอบของงานสักในแบบฉบับของศิลปิน เข้ากับความเปลือยโปร่งของพื้นหน้าปัดที่โชว์ให้เห็นกลไกจักรกล Unico ภายใน ถือเป็นการบรรจบระหว่างศิลปะ วัฒนธรรมป็อบ และการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกาที่ลงตัว
ถือได้ว่าเป็นศิลปินด้วยกันทั้งคู่ สำหรับ MB&F แบรนด์นาฬิกาอิสระที่นับเป็นศิลปินและนักสร้างสรรค์ตัวยงของวงการนาฬิกา และ Eddy Jaquet ช่างแกะสลักระดับ Master ที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งทั้งคู่ได้มีโอกาสมาทำงานร่วมกัน และถ่ายทอดความสวยงามของงานหัตถศิลป์ไว้บนหน้าปัดนาฬิการุ่นใหม่อย่าง MB&F x Eddy Jaquet LM Split Escapement ที่เป็นการผสมผสานทั้งศิลปะการเล่าเรื่องราวผ่านงานแกะสลักอันละเอียดอ่อน ทั้งยังหยิบยกเอาฉากแห่งจินตนาการจากนวนิยายชื่อก้องทั้งหมด 8 เรื่องของ Jules Verne ที่ Eddy Jaquet ได้เลือกนำมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานแกะสลักบนหน้าปัดซึ่งทำจากทองคำขาว รวมถึงหน้าปัดย่อยสเกเลตันที่ช่วยเผยให้เห็นรายละเอียดและฝีมือการแกะสลักอันบรรจงสวยงามของศิลปินคนนี้ได้อย่างชัดเจน โดยรังสรรค์เป็นนาฬิกาซีรีส์พิเศษทั้งหมดเพียง 8 เรือนเท่านั้น
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF THE BRANDS
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ นาฬิกา ได้ที่