Pop Culture ยุค 80s ที่เป็นยุคแห่งงานดีไซน์และการสร้างสรรค์อย่างแท้จริงนั้นได้ถูกนำมาตีแผ่อีกครั้งในนาฬิการุ่นรีเมกใหม่ของ Tissot Heritage Memphis Limited Edition
Tissot – Heritage Memphis Limited Edition ฉีกออกจากกฎเดิมๆ ด้วยรูปแบบและงานดีไซน์แปลกใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยปรากฏมาก่อน กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Pop Culture ยุค 80s จากอิทธิพลและการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนซึ่งเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980s และกลายเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญของหลากหลายวงการสร้างสรรค์ ทั้งในแง่ของศิลปะ สังคม วัฒนธรรม เรื่อยไปจนถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ดนตรี และเช่นเดียวกับวงการนาฬิกา โดยหนึ่งในแบรนด์ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวนี้อย่างเห็นได้ชัดก็เช่น ทิสโซต์ (Tissot)
โดยในปีค.ศ. 1988 Tissot ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแบรนด์นาฬิกาคุณภาพของสวิสที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและการพัฒนาผลงานเครื่องบอกเวลามาอย่างต่อเนื่อง ได้ร่วมมือกับ Ettore Sottsass ผู้ก่อตั้งแห่ง Memphis Group ซึ่งเป็นกลุ่มนักออกแบบที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสถาปัตยกรรมและงานดีไซน์สำคัญของยุค 80s และส่วนตัวเขาเองยังเป็นนักออกแบบชาวอิตาเลียนที่ฝากผลงานสร้างสรรค์ไว้มากมาย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เช่นเดียวกับนาฬิกา ที่เขาออกแบบรังสรรค์ขึ้นตามจิตวิญญาณความกล้าหาญ การเล่นกับสีสัน การปฏิวัติซึ่งรูปแบบ และฉีกออกจากกฎ
และเป็นในปีค.ศ. 1988 นี้เองที่ Ettore Sottsass ได้นำเสนอนาฬิกาที่แสดงถึงสไตล์การออกแบบของเขาสู่สายตาผู้คนโดยความร่วมมือของ Tissot โดยเหมือนกับผลงานเฟอร์นิเจอร์อันโด่งดังของเขา ที่นาฬิกาเรือนนี้ได้ทลายซึ่งกฎเกณฑ์และประเพณีความนิยมแบบเดิมๆ มาสู่สิ่งสร้างสรรค์ใหม่ โดยนาฬิกา Tissot Sottsass นั้นโดดเด่นด้วยการเป็นนาฬิการูปทรงกลมมน แต่มีโครงร่างคล้ายเลนส์นูน ซึ่งประกอบไปด้วยทั้งฝาหลังและขอบตัวเรือนที่เอียงลง และเมื่อผสมผสานองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันจึงสร้างรูปเป็นชั้นทรงเรขาคณิตที่ชวนให้หวนนึกถึงงานออกแบบของ Sottsass อย่าง Totem ที่เป็นผลงานซึ่งเปิดตัวในช่วงการเคลื่อนไหวนี้นั่นเอง นอกจากนี้จุดเด่นของนาฬิกาเรือนดังกล่าวยังรวมไปถึงการไม่มีหูตัวเรือนที่ยื่นออกมาสำหรับเชื่อมต่อระหว่างตัวเรือนนาฬิกาเข้ากับสาย แต่เป็นการออกแบบขึ้นใหม่ด้วยการต่อผสานเข้ากับสายได้ในตัว เหมือนการต่อของเซ็ตรูปทรงลูกบาศก์ที่เป็นหนึ่งในลายเซ็นการออกแบบของ Sottsass นั่นเอง
ที่ถอดแบบมาจากนาฬิกา Tissot Sottsass รุ่นดั้งเดิม
ขณะที่ในผลงานรุ่นนี้ยังบรรจุไว้ด้วยเครื่องหมายบอกชั่วโมงที่มีลักษณะหนาและสั้น แตกต่างสลับกันไป ช่วยเพิ่มทั้งมิติและดูสนุกสนานยิ่งขึ้น ซึ่งอ้างอิงมาจากภาพการออกแบบและการเคลื่อนไหวของ Memphis และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือนาฬิกา Tissot Sottsass มีความแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป ด้วยการทำรอยบาก ณ บริเวณส่วนกลางของนาฬิกา เพื่อติดตั้งเม็ดมะยมโดยที่ไม่ไปรบกวนรูปทรงกลมอันสมบูรณ์แบบของตัวเรือน
แม้ว่าสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นจะดูเหมือนเป็นการเลือกใช้องค์ประกอบทางกราฟิกที่เรียบง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ของ Sottsass นั้นมีความซับซ้อนอย่างมาก และยังโดดเด่นด้วยโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมซึ่งสะท้อนถึงอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์ของสถาปนิกและดีไซเนอร์ และแสดงออกถึงจิตวิญณาณที่มีร่วมกันของ Memphis Group
“นาฬิกาที่ผมออกแบบให้กับ Tissot นั้น ส่วนใหญ่เป็นการใช้ภาพ และรวมไปถึงโครงสร้างเชิงสัญลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกับยุคคลาสสิกโบราณ ที่เป็นตัวช่วยในการเชื่อมโยงและสื่อสารกับจักรวาล อย่างน้อยก็ผ่านซึ่งสัมผัสของรูปทรงหรือในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในรูปแบบของศิลปะภาวนา (mandala) อันโด่งดัง” (ข้อความจากคลังข้อมูลสำคัญของ Tissot)
และนี่เองที่เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง Sottsass กับ Tissot กับการสร้างสรรค์นาฬิกาในฐานะตัวแทนและมีความหมายถึงการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกถึงบุคลิก ปรัชญาความเชื่อ หรือประสบการณ์ที่ผ่านจากช่วงเวลาต่างๆ ด้วยแนวคิดบุกเบิก และถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ Pop Culture ยุค 80s นี้เอง ที่ Tissot ได้หยิบเอาสีสันงานดีไซน์นี้กลับมารีเมกและสร้างสรรค์ใหม่ในผลงานคอลเลกชั่นพิเศษ Heritage Memphis Limited Edition ซึ่งบรรจบกับยุคปัจจุบันที่อิทธิพลและการพูดถึงการเคลื่อนไหวและการออกแบบสร้างสรรค์ยุค 80s กำลังเป็นนิยมและหวนคืนกลับมาอีกครั้ง ทั้งในหน้าสื่อ รวมไปถึงในตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือแม้แต่ในโลกภาพยนตร์และซีรีส์ที่เนื้อหาของยุค 80s ได้ถูกกลับมาพูดถึงกันอีกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับสุภาพสตรี กับสีสันสดใสของสายสามารถถอดเปลี่ยนได้
โดยใน Heritage Memphis Limited Editionของ Tissot นี้ยังคงอ้างอิงมาจากงานออกแบบของ Ettore Sottsass ในปีค.ศ. 1988 แต่เป็นการนำเสนอในมุมมองและเวอร์ชั่นที่ร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดย Tissot ไม่ได้ต้องการดึงเอารูปแบบในอดีตกลับมาใช้ทั้งหมด แต่ได้หยิบเอาสัญลักษณ์เด่นๆ ของสไตล์การออกแบบยุคนั้นมาประยุกต์ เพื่อนำเสนอให้เหมาะสมกับช่วงเวลาปัจจุบัน ถือเป็นการย้อนกลับไปสู่สไตล์แห่งยุค 80s ที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยมีทั้งหมด 4 เวอร์ชั่น สุดอาร์ต สำหรับผู้ที่ติดตามและชื่นชอบในงานดีไซน์สไตล์อาว็องการ์ดโดยเฉพาะ
ประกอบด้วยหน้าปัดที่ยังคงเป็นไปตามหลักแห่งสุนทรียศาสตร์ดั้งเดิม แต่ปรับและขยายสัดส่วนให้ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งตัวเรือนได้รับการปรับใหม่ ด้วยเส้นสายที่ยืดออกและดูร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมการปกป้องด้วยกระจกตัวเรือนออกแบบใหม่เป็นทรงโดมโค้งรับไปกับตัวเรือนและขอบตัวเรือนที่เรียงซ้อนอยู่ด้วยกันได้อย่างใกล้ชิดและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งยังโดดเด่นจากนาฬิกาทั่วไปด้วยตัวบอกวินาทีกลางหน้าปัดที่ทำงานโดยปราศจากเข็มชี้ แต่เป็นการใช้สัญลักษณ์จุดบนแผ่นดิสก์หมุนขนาดเล็กแทน และปิดท้ายด้วยฝาหลังของตัวเรือนซึ่งใช้ลวดลายเรขาคณิตมาสุ่มวางปนกัน ชวนให้นึกถึงที่มาของการออกแบบและตกแต่งสไตล์ Memphis โดยลวดลายเดียวกันยังไปปรากฏบนผิวด้านในของสายยางอีกด้วย
สำหรับสุภาพสตรี แต่ละรุ่นผลิตจำนวนจำกัด
สำหรับคอลเลกชั่น Memphis นี้ ประกอบด้วยนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี 2 รุ่น กับตัวเรือนขนาด 34.0 มิลลิเมตร ที่เลือกได้ระหว่างรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลคู่หน้าปัดสีขาว และอีกรุ่นเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีล พร้อมขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีเยลโลว์โกลด์ โดยแต่ละรุ่นผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 1,700 เรือน ขณะที่อีกสองรุ่นสำหรับสุภาพบุรุษนั้นมาพร้อมตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร โดยรุ่นแรกทำจากสเตนเลสสตีล พร้อมขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีเยลโลว์โกลด์ ซึ่งสามรุ่นข้างต้นนี้มาพร้อมหน้าปัดสีขาวและเครื่องหมายบอกเวลาสีดำแบบรุ่นดั้งเดิม ขณะที่อีกรุ่นสำหรับสุภาพบุรุษและเป็นรุ่นที่ 4 ของคอลเลกชั่นนี้เผยโฉมในฐานะตัวแทนอันทรงเกียรติของยุคปัจจุบัน เพราะใส่ความเป็นแฟชั่นลงไปด้วยการผลิตตัวเรือนจากสเตนเลสสตีลและขอบตัวเรือนทั้งหมดเคลือบ PVD สีดำ เข้ากับหน้าปัดสีดำ มีเพียงเครื่องหมายบอกชั่วโมงเท่านั้นที่เป็นสีขาว ทำให้เกิดภาพที่ตัดกันและเกิดความคอนทราสต์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสไตล์การออกแบบของ Memphis โดยนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษทั้งสองรุ่นนี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเช่นกัน เพียง 3,000 เรือน สำหรับรุ่นเคลือบ PVD สีดำ และ 2,500 เรือน สำหรับรุ่นทูโทนสองสีระหว่างสตีลและเคลือบ PVD สีเยลโลว์โกลด์
กับความร่วมสมัยยิ่งขึ้น ของตัวเรือนและขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำ และหน้าปัดสีดำ
แต่ละรุ่นประกอบมากับสายหนังสังเคราะห์สีดำทำจากวัสดุวีแกน และมาพร้อมสายสำรองอีกหนึ่งเส้นเป็นสีสันสดใสสำหรับเปลี่ยนสลับสายได้เอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่สะท้อนสไตล์ของ Memphis คือการใช้สีอย่างฟุ่มเฟือย โดยมักใช้สีสันสดใสมีชีวิตชีวา ที่ Tissot ได้นำแนวทางเดียวกันนี้มานำเสนอกับสายนาฬิกา ทั้งสีชมพู สีแดง น้ำเงิน และสีน้ำตาลแกมเหลือง ผสมผสานกันให้เกิดความมีชีวิตชีวา สนุกสนาน และตอกย้ำสไตล์ของ Memphis ได้อย่างดี
Tissot คือ “Innovator by tradition” หรือผู้สร้างนวัตกรรมที่สืบทอดกันมา นับตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาที่มีความโดดเด่นในการคาดการณ์แนวโน้มล่วงหน้า ทำให้แบรนด์สามารถขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กับเทรนด์แฟชั่น ตลอดจนการเคลื่อนไหวของศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งเห็นได้ชัดจากการบุกเบิกเส้นทางแห่งความร่วมมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Ettore Sottsass มานับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980s อันเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของทุกๆ การสร้างสรรค์ในโลกยุคนั้นจริงๆ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TISSOT
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
