หากชื่อ Calatrava เป็นที่จดจำได้เสมอแล้ว ผลงานใหม่ของคอลเลกชันนี้ก็จะยังคงตราตรึงใจผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาอันคลาสสิกสง่างามสูงสุดของ Patek Philippe ได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา
Patek Philippe unveils the New Calatrava Models นับจากปีค.ศ. 1932 กับการเปิดตัว Ref. 96 ซึ่งยังนับเป็นนาฬิการุ่นแรกของโรงงานการผลิต ปาเต็ก ฟิลลิปป์ (Patek Philippe) ที่มาพร้อมด้วยหมายเลขอ้างอิง Calatrava ได้วางตำแหน่งอันมั่นคงในฐานะหัวใจอันเป็นแก่นแท้แห่งนาฬิกาข้อมือทรงกลมคลาสสิก ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนาฬิกาอันสวยงามและสง่างามไร้กาลเวลา ด้วยงานออกแบบอันบริสุทธิ์ที่สะท้อนถึงสไตล์เรียบน้อยแบบ Bauhaus และถูกนำมาตีความใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าในอีกหลากหลายเวอร์ชันทั้งนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ที่มาพร้อมคุณสมบัติอันโดดเด่นของขอบตัวเรือนเรียบแบนและกลมมนเล็กน้อย ผ่านการขัดเงาอย่างเรียบเนียน ทั้งประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าหรือแกะสลักกิโยเช (guilloched) โดยผลงานรุ่นต่างๆ นับจากนาฬิกาเรือนบางพิเศษสู่ความโดดเด่นอันน่าประทับใจของตัวเรือนสไตล์ officer และหน้าปัดอันเรียบง่ายที่แสดงไว้เพียงชั่วโมงและนาที หรือในบางครั้งยังแสดงด้วยวินาที หรือสมทบด้วยการแสดงอื่นๆ นั้นได้ร่วมสร้างสถานะให้ Calatrava เป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่มีความหลากหลายสูงสุดของโรงงานการผลิตเช่นกัน
ภายใต้ประเพณีอันภาคภูมิใจ นาฬิกา Calatrava ดึงดูดความสนใจได้อย่างสูงสุด โดยปรากฏอยู่ในเวอร์ชันต่างๆ ที่มาพร้อมความประณีตของการตกแต่งขอบตัวเรือนด้วยลวดลายแกะสลักกิโยเชหัวตะปู (guilloched hobnail) หรือ Clous de Paris ผ่านการขัดเงาด้วยเพชรและประกอบด้วยปลายยอดพีระมิดเล็กๆ ที่เคยปรากฏมาแล้วบนขอบตัวเรือนของ Calatrava ในปีค.ศ. 1934 อย่าง Ref. 96D (D หมายถึง décor) และบรรจุกลไกจักรกลไขลานด้วยมือชุดเดียวกันคือ caliber 12-120 พร้อมทั้งหูตัวเรือนแบบโค้ง รวมถึงหน้าปัดบรรจุไว้ด้วยหลักชั่วโมงและหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีเช่นเดียวกับในรุ่น Ref. 96 ต่อมาในปีค.ศ. 1972 ขอบตัวเรือนเดียวกันนี้ได้มอบความสง่างามให้กับเรือนเวลาจักรกลไขลานด้วยมือ Ref. 3520D (caliber 177) ด้วยการแสดงชั่วโมงและนาที พร้อมทั้งตัวเลขโรมันและหูตัวเรือนแบบตรง ขณะที่ในปีค.ศ. 1985 นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ Calatrava ที่ต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในเรือนเวลาอันโด่งดังสูงสุดในโลกแห่งเครื่องบอกเวลา นั่นคือรุ่นระดับตำนาน Ref. 3919 ด้วยการขับเคลื่อนของกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ caliber 215 PS ที่บรรจุหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีไว้ ณ 6.00 นาฬิกา บนหน้าปัดสีขาว พร้อมทั้งตัวเลขโรมันแล็กเกอร์สีดำและหูตัวเรือนแบบตรง โดยรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นเป็นเวลานานกว่า 20 ปี
Patek Philippe unveils the New Calatrava Models
ในช่วงเวลาเดียวกัน เรายังได้เห็นการสร้างสรรค์เวอร์ชันต่างๆ ที่มาพร้อมตัวเรือนขนาดเล็กลงสำหรับข้อมือสุภาพสตรี อาทิ Ref. 4819 ในปีค.ศ. 1987 กับกลไกควอตซ์, Ref. 4820 ของปีค.ศ. 1988 กับกลไกควอตซ์และเพิ่มเติมด้วยขอบตัวเรือนประดับอัญมณี เช่นเดียวกับ Ref. 4809 ในปีค.ศ. 1991 บรรจุกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ caliber 16-250 ขณะที่ Ref. 5115 ของปีค.ศ. 2000 มาพร้อมกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ caliber 215 PS ที่ปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมทั้งหูตัวเรือนแบบโค้งที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Ref. 96D ตามมาด้วย Ref. 5120 กับหูตัวเรือนแบบตรง และกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ caliber 240 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2001 รวมทั้งใน Ref. 5119 ของปีค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นรุ่น Re-edition ของ Ref. 3919 แต่ยังคงบรรจุไว้ด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือcaliber 215 PS และหูตัวเรือนแบบตรง และในปีค.ศ. 2009 กับการเสริมด้วย Ref. 5116 ที่มาพร้อมหน้าปัดลงยากรองด์เฟอ (grand feu enamel)
ในปีค.ศ. 2016 ลวดลายแกะสลักกิโยเชหัวตะปูบนขอบข้างตัวเรือน และบนหนึ่งในสองเวอร์ชันหน้าปัดของ Ref. 6300 Grandmaster Chime ที่นับเป็นนาฬิกาข้อมือสลับซับซ้อนสูงสุดของ Patek Philippe ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของงานการตกแต่งที่นับเป็นต้นตำรับขนานแท้สำหรับโรงงานการผลิตแห่งนี้ โดยนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2018 และยกเว้นเพียงบางรุ่นใน rare handcrafts editions ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษใน Ref. 5177 ต่างๆ แล้ว ลวดลาย “Clous de Paris” นี้ยังไม่เคยปรากฏภายในคอลเลกชันปัจจุบันของ Patek Philippe อีกเลย จวบจนวันนี้ที่แบรนด์ได้ต้อนรับการกลับมาอย่างย่ิงใหญ่ของลวดลายนี้อีกครั้ง
ซึ่ง Patek Philippe ได้นำมาตกแต่งและเผยโฉมพร้อมกับเวอร์ชันใหม่ของ Calatrava “Clous de Paris” ใน Ref. 6119 ตัวเลขที่อุทิศให้กับเรื่องราวแห่งตำนานของ 3919 และ Ref. 5119 จากปีค.ศ. 2006 ด้วยภาพลักษณ์อันร่วมสมัยสูงสุด ทั้งขนาดตัวเรือนที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 39 มม. รวมถึงหน้าปัดตกแต่งหลักชั่วโมงรูปทรงเพรียวและบางขึ้น และเป็นนาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพบุรุษอันสง่างามที่เลือกได้ในเวอร์ชันโรสโกลด์หรือไวท์โกลด์ ที่ทั้งคู่บรรจุไว้ด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือชุดใหม่สำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมง ขณะที่การพัฒนาเพิ่มเติมด้านงานออกแบบนั้น ยังรวมไปถึงตัวเลขโรมันแล็กเกอร์สีดำบนพื้นหลังสีขาวภายใน Refs. 3919 และ 5119 ที่ได้ถูกแทนที่ด้วยหลักชั่วโมง “obus” ทรงเหลี่ยมด้านทำจากทอง 18K กับหลักสองขีดที่ตำแหน่ง 12.00 นาฬิกา
Patek Philippe Calatrava
ทำให้ Patek Philippe ได้หวนคืนสู่รากแห่งงานออกแบบ Calatrava ดั้งเดิม และสู่ Refs. 96 ในปีค.ศ. 1932 รวมถึง 96D ในปีค.ศ. 1934 ที่บรรจุด้วยหลักชั่วโมงประเภทเดียวกัน พร้อมทั้งเข็มชี้ชั่วโมงและนาทีสไตล์ Dauphine (โดฟีน) ทำจากทอง ชวนให้หวนนึกถึง Ref. 96 แต่ตกแต่งด้วยทรงสามเหลี่ยมด้านแทนที่จะเป็นสองเหลี่ยมด้าน เพื่อมอบการอ่านค่าได้อย่างล้ำเลิศ เช่นกันกับสเกลนาทีแบบรางรถไฟ (railway-track) บนขอบวงกลมรอบหน้าปัด และเข็มวินาทีสไตล์ “cheveu” (เชอเวอ) เพรียวบางขึ้นที่หมุนอยู่เหนือหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ 6.00 นาฬิกา แบ่งออกเป็นสี่ส่วนอย่างชัดเจน
ผสมผสานเข้ากับขอบตัวเรือนกลมมนตกแต่งลวดลายกิโยเชหัวตะปู และถ่ายทอดความประณีตของขอบโครงร่างขัดขึ้นมุมที่กว้างขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับสันขอบบางและขัดเงาที่เป็นกรอบให้กับกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง ส่วนรูปทรงของหูตัวเรือนได้พัฒนาขึ้นใหม่ โดยหูตัวเรือนแบบตรงของ Ref. 3919 ถูกแทนที่ด้วยหูตัวเรือนแบบโค้งซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Ref. 96 และนาฬิกา Calatrava กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติรุ่นต่างๆ จากยุค 1990s เพื่อเสริมความสะดวกสบายและรับไปกับข้อมือ
สำหรับรุ่นแฟลกชิพใหม่แห่งสไตล์ของ Patek Philippe นี้ มาพร้อมด้วยสองเวอร์ชันระหว่าง Ref. 6119R-001 ผสมผสานตัวเรือนโรสโกลด์เข้ากับหน้าปัดเกรนสีเงิน บรรจุหลักชั่วโมงและเข็มชี้โรสโกลด์ และประกอบคู่มากับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลช็อกโกแลตเงาวาว รวมถึงหัวเข็มขัดแบบ prong ทำจากโรสโกลด์ ขณะที่ Ref. 6119G-001 มีตัวเรือนไวท์โกลด์ เล่นมิติอย่างลุ่มลึกกับแสงสะท้อนบนหน้าปัดสีเทาชาร์โคล ตัดด้วยงานขัดซาตินแนวตั้งและหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีลายก้นหอย บรรจุหลักชั่วโมงและเข็มชี้ทำจากโลหะชนิดเดียวกันกับตัวเรือน สวมคู่มากับสายหนังจระเข้สีดำเงาวาว พร้อมด้วยหัวเข็มขัดแบบ prong ทำจากไวท์โกลด์ กับรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของหัวเข็มขัดแบบ prong สำหรับ Ref. 6119 ทั้งสองรุ่นนี้ ที่ดั้งเดิมนั้นออกแบบขึ้นพิเศษให้กับตลาดอเมริกา โดย Henri Stern อดีตประธานของโรงงานการผลิต
ส่วนภายใน ทำงานด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือซึ่งเป็นกลไกฐานชุดใหม่ของแบรนด์ เพื่อเติมเต็มความหลากหลายของกลไกคาลิเบอร์ต่างๆ ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเองให้กว้างขวางยิ่งขึ้น กับการพัฒนากลไกที่มีรากฐานมาจากความปรารถนาที่จะมีกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้น และช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ตัวเรือนที่บางกว่า โดยกลไก caliber 30-255 PS ใหม่นี้มาพร้อมทั้งคุณสมบัติของความแข็งแกร่งทนทานและเปี่ยมด้วยพละกำลัง โดยมอบซึ่งพลังงานสำรอง 65 ชั่วโมง หรือเกือบสามวัน กับความถี่ 4 เฮิรตซ์ หรือ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ด้วยค่าความเบี่ยงเบนสูงสุดที่ -3/+2 วินาที ใน 24 ชั่วโมง กลไกชุดนี้ได้เติมเต็มมาตรฐานอันเข้มข้นสูงสุดของ Patek Philippe Seal ในแง่ของความเที่ยงตรงแม่นยำ เช่นเดียวกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างที่ผ่านการออกแบบขึ้นอย่างพิถีพิถันละเอียดอ่อน ตรงตามประเพณีซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนานของ Patek Philippe
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF Patek Philippe
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
