นิทรรศการที่นำเสนอโดย RCB Experimental Art Lab โปรเจกต์พิเศษโดย ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ร่วมกับ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
เราจะขอพาทุกท่านย้อนกลับไปสู่สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ
ที่ ๆ ทุกเหตุการณ์จะย้อนกลับมาเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ราวกับว่า ‘เธอ’ ยังอยู่ตรงนั้นไม่เคยจากไปไหน
เราทุกคนมักจะมีสถานที่หนึ่ง ที่ซึ่งไม่ว่าจะหลับตาลงกี่ครั้ง ภาพของสถานที่แห่งนั้นก็ไม่เคยเลือนรางหายไปจากความรู้สึก ยังคงฝังแน่น และหยั่งรากลึกลงในจิตใจของเราอยู่เสมอ
สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำกับ ‘เธอ’ คนที่เราไม่เคยลืม
ทั้งกายสัมผัส เสียงลมหายใจ การเคลื่อนไหว กลิ่นที่คุ้นเคย ความสุข รอยยิ้ม อ้อมกอด เสียงหัวเราะ หยาดน้ำตา ความเสียใจ ความหวงแหน โหยหา ทุกข์ใจ คำปลอบประโลม ที่มาพร้อมกับ ‘การลาจาก’ คำสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่เป็นสิ่งที่ยากและเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของทุกสรรพสิ่ง
“ที่ ๆ เคยมีเธอ” (Like You Never Left) คือนิทรรศการที่นำเสนอโดย RCB Experimental Art Lab โปรเจกต์พิเศษโดย ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ร่วมกับ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ นักสะสมงานศิลปะและนักแสดงผู้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านละครและภาพยนตร์มาแล้วมากมาย โดยนิทรรศการครั้งนี้ได้นำเสนอผลงานของศิลปินมากความสามารถผู้มีผลงานโดดเด่นในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกทั้ง 10 ท่าน ได้แก่ Art Jeeno, อาริญญา กันธิโน, ชนนภัส ยกใหญ่, give.me.museums, Keng Jeans, Munins, Noinah, SUNTUR, วิชุดา ขันติจิตร และ Wood you mind
เราจะขอพาทุกท่านย้อนกลับไปสู่สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ
ที่ ๆ ทุกเหตุการณ์จะย้อนกลับมาเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ที่ซึ่ง ‘เธอ’ ยังนั่งอยู่ข้างหน้ามองมา ยิ้มให้ กอดเรา พูดคุยกับเรา
ราวกับว่า ‘เธอ’ ยังอยู่ตรงนั้นไม่เคยจากไปไหน
“Like you never left :)”
เกี่ยวกับ RCB Experimental Art Lab
โดยในปี 2025 นี้ นอกจากนิทรรศการ “ที่ ๆ เคยมีเธอ (Like You Never Left)” แล้ว RCB Experimental Art Lab ก็ยังมีโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายที่รอจะนำเสนอให้ทุกท่านได้ชื่นชมกัน
เกี่ยวกับภัณฑารักษ์ร่วม
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือเป็นที่รู้จักในนาม ‘บอย ปกรณ์’ (เกิดปี พ.ศ. 2527) คือนักสะสมงานศิลปะ และนักแสดงผู้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านละครทีวีและภาพยนตร์มาแล้วมากมาย เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงหลังจบการศึกษา ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากมายในฐานะนักแสดงชื่อดังของประเทศไทย ผลงานการแสดงครั้งล่าสุดของเขาคือ “Time หมุนเวลาตาย” ทางช่อง ONE31 และ “Tomrrow and I (อนาฅต)” ตอน ‘นิราศแกะดำ’ ทาง Netflix
ด้วยความสนใจในศาสตร์การเล่าเรื่อง การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก และการบอกเล่าเรื่องราวอันลึกซึ้ง ผ่านทางเทคนิคและสัญลักษณ์ ทำให้บอยเริ่มสนใจในการสะสมงานศิลปะเรื่อยมา โดยเริ่มต้นจากอาร์ตทอยและนำไปสู่การสะสมภาพวาด ปัจจุบันคอลเลคชั่นงานศิลปะของเขามีความร่วมสมัยและหลากหลาย ทั้งศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินที่มีประสบการณ์ และนอกจากการสะสมงานศิลปะแล้ว บอยยังมีผลงานการร่วมออกแบบอาร์ตทอย โดยนิทรรศการ “ที่ ๆ เคยมีเธอ (Like You Never Left)” ในครั้งนี้ ก็เป็นนิทรรศการแรกที่เขาเป็นคิวเรเตอร์ร่วมกับทีมงานของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก อีกด้วย
เกี่ยวกับศิลปิน
1. Art Jeeno
Art Jeeno หรือ ปิยพัชร์ จีโน (เกิดปี พ.ศ. 2530) คือศิลปินผู้เป็นที่ยอมรับและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวาดในวงการมังงะมากมาย หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาก็ได้ทุ่มเทให้กับการวาดมังงะอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการออกแบบลายเส้นและการลงสีที่มีเอกลักษณ์แตกต่างไม่เหมือนใคร จนทำให้ผลงานมังงะของเขาได้รับรางวัลจากงาน “Japan International Manga Award” ครั้งที่ 7, 8 และ 14 ซึ่งสร้างความโด่งดังและทำให้ความสามารถของ Art Jeeno ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ ผลงานมังงะ Juice #1, Juice #2 และ Juice #3 ของเขายังได้รับการตีพิมพ์เพื่อนำไปวางจำหน่ายที่ประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
Art Jeeno เข้าสู่วงการศิลปะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ด้วย “Now” (2013) นิทรรศการเดี่ยวที่จัดขึ้นเชียงใหม่ และ “Now2” (2017) ที่จัดขึ้น ณ Gallery 36 ในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้มีโอกาสร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการกลุ่ม “When Snowflakes Fall” (2022) และ “To the moon and (never) back” (2023) ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Art Jeeno ในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์อันอ่อนไหวและเปราะบางที่แสดงออกผ่านสีหน้าและการกระทำอันกลายมาเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวในการสร้างผลงานของเขา และในเดือนกรกฏาคมปี 2024 เขาก็ได้มีนิทรรศการเดี่ยวครั้งสำคัญขึ้นที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภายใต้ชื่อ “A Cold Day in July” ซึ่งเป็นนิทรรศการเดี่ยวของ Art Jeeno ในรอบ 7 ปี
2. อาริญญา กันธิโน
อาริญญา กันธิโน เป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งจินตนาการและความฝัน ถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกผ่านสภาวะและกาลเวลาด้วยเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ ผลงานของเธอมุ่งหวังให้ผู้ชมสัมผัสถึงความสุขและแรงบันดาลใจในทุกครั้งที่ได้ชื่นชม โดยอาริญญาได้ร่วมแสดงนิทรรศการกลุ่มมาแล้วมากกว่า 30 ครั้งระหว่างปี พ.ศ. 2558 – 2567 อีกทั้งยังจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในช่วงปลายปี พ.ศ. 2565 และนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่สองในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566
3. ชนนภัส ยกใหญ่
ชนนภัส ยกใหญ่ (เกิดปี พ.ศ. 2543) จบการศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผลงานของเธอเป็นภาพวาดเชิงสัญญะและลัทธิเหนือจริง งานของเธอขับเคลื่อนด้วยความสนใจในชีวิตประจําวันจากแง่มุมความเป็นผู้หญิง ผลงานของเธอ มุ่งหวังที่จะค้นหาคําตอบของกรอบบรรทัดฐานทางสังคมที่เธอต้องเผชิญด้วยการเล่าเรื่องผ่านภาพวาดสีสันสดใสที่เกินจริงและเรือนร่างฟิกเกอร์ที่ดูปกปิดอําพรางใบหน้าท่ามกลางแลนด์สเคปผิดแปลกที่ชวนให้คนดูได้ตีความและร่วมสํารวจผ่านประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนไปพร้อม ๆ กัน
ชนนภัสเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมจากนิทรรศการกลุ่ม “Utopia” (2024) ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และนิทรรศการกลุ่ม “Perplexa Scenario” (2024) ที่ Joyman Gallery
4. give.me.museums
‘give.me.museums’ หรือ คนธรัตน์ เตชะไตรศร (เกิดปี พ.ศ. 2536) คือศิลปินที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ผู้มีความเชื่อว่าศิลปะสามารถอยู่ได้ทุกที่และเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เธอเป็นที่รู้จักจากภาพทิวทัศน์ที่เน้นไปที่พื้นผิว สีสัน และฝีแปรงที่มีกลิ่นอายของความผ่อนคลายและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ ผลงานของเธอยังเป็นที่รู้จักผ่านคาแรคเตอร์หญิงสาวผมแดงที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการรักตัวเองและความสัมพันธ์
5. Keng Jeans
Keng Jeans หรือ นนทกร วชิรโกสีย์ (เกิดปี พศ. 2543) จบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สาขาประยุกต์ศิลป์ เอกจิตรกรรม ชีวิตประจําวันของเขาอยู่ในสตูดิโอทํางานศิลปะเพื่อศึกษาค้นคว้าการทํางานศิลปะอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผลงานศิลปะแนวเซอร์เรียลลิสต์ Keng Jeans กลายมาเป็นที่รู้จักจากนิทรรศการกลุ่ม “Utopia” (2024) และ “Before Sunrise” (2024) ที่จัดขึ้น ณ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และ นิทรรศการเดี่ยว “Inner Child” (2024) ที่นำเสนอโดย Pagoda the Art Club
6. Munins
Munins หรือ มุนินทร์ สายประสาท (เกิดปี พ.ศ. 2531) คือศิลปิน นักเขียน และนักวาดที่มีชื่อเสียงมากกว่า 10 ปี เธอชอบอ่านการ์ตูนและใฝ่ฝันจะอยากจะเรียนวาดรูปตั้งแต่เด็ก ๆ ต่อมาชีวิตกลับหันเหด้วยการไปเข้าเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังจากจบการศึกษา Munins มุ่งหน้าทำสิ่งที่เธอชอบอย่างแท้จริงคือการวาดการ์ตูน โดยเริ่มต้นจากการเขียนการ์ตูนนิยายภาพโทนสีเทาที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์หลากรูปแบบ ทั้งในมุมที่อบอุ่น อ่อนโยน และโรแมนติก
จุดเด่นในงานของ Munins คือการสร้างตัวละครที่สื่อสารอารมณ์ความรู้สึกจนทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าตัวละครของเธอนั้นมีชีวิตจริง ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันและเชื่อมโยงกับตัวละครของเธอ นอกจากลายเส้นที่จับใจผู้ชมแล้ว Munins ยังเป็นนักเขียนผู้มีจุดแข็งในการถ่ายทอดความรู้สึกทั้งสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน จนทำให้เธอมีแฟนหนังสือมากมาย และได้กลายเป็นนักเขียนและนักวาดที่มีผู้ติดตามในเฟสบุ๊คกว่า 600,000 คน
RCB Experimental Art Lab คือโปรเจคพิเศษโดย ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินหลากหลายแขนง ทั้งจิตรกรรม ดนตรี ศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ และสื่อผสมอื่น ๆ อีกมากมาย ได้ทำงานศิลปะเพื่อ “สำรวจ” (Explore) ความคิดสร้างสรรค์ที่ยังไม่มีใครค้นพบ “ทดลอง” (Experimental) กับแนวคิดและเรื่องราวจากศิลปะแขนงต่าง ๆ และ “แลกเปลี่ยน” (Exchange) บทสนทนาระหว่างศิลปินไทยและต่างประเทศเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์อันสดใหม่
จากนักเขียนการ์ตูน Munins เริ่มเข้าสู่วงการ Fine Arts ในปี 2022 ด้วยนิทรรศการ “B-Side” ที่ Palette Art Space ที่เธอได้นำเสนอทั้งผลงานแบบดิจิทัลและ NFT อีกทั้งยังได้ร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการกลุ่มกับ “Shall I Compare Thee to a Summer’s Day?” (2022) และ “To the Moon and (Never) Back” (2023) ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และในปี 2024 เธอก็ได้จัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวภายใต้ชื่อ “Blackout” (2024) เป็นครั้งแรกที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่เธอได้สร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบที่เติบโตและท้าทายตนเองมากขึ้น ทำให้เธอได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ชมและนักสะสมมากมาย
7. Noinah
Noinah (เกิดปี พ.ศ. 2520) คืออดีตนักเขียนการ์ตูนขำขันลงนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นเจ้าของสตูดิโอและแกลเลอรี่เล็ก ๆ ในจังหวัดจันทบุรี ประเทศไทย เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวาดภาพเพื่อเรียบเรียงความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ผลงานของเขาจึงสามารถสื่อสารบางอย่างกับบางคนที่มีความรู้สึกคล้ายกันได้อย่างลึกซึ้ง
8. SUNTUR
“หยิบออกจนคงเหลือเพียงสิ่งสำคัญ” คือนิยามการทำงานศิลปะ ณ เวลานี้ของ ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล หรือ SUNTUR
ความรักระหว่างเขากับศิลปะนั้นเกิดตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม แต่อีกสิ่งที่หลงใหลไม่แพ้กันคือ ‘การเล่าเรื่อง’ เขาเป็นคนที่ชอบเล่าเรื่องผ่านทั้งภาพและตัวอักษร ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวตรงนี้จึงทำให้เลือกเรียนตามความถนัดอย่างภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ ซึ่งผสมผสานตัวตนของเขาได้อย่างลงตัว ต่อมาเขาได้เริ่มทำงานเป็น Copywriter ที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง โดยระหว่างทำอาชีพหลัก เขาก็ยังไม่ทิ้งการวาดรูปซึ่งเป็นสิ่งที่รัก และประกอบรวมทักษะที่สั่งสมมาอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งการวาดและการเล่าเรื่องจนได้มาเป็นศิลปินเต็มตัว อย่างทุกวันนี้
SUNTUR มักจะนำเรื่องราวรอบตัวทั้งเรื่องเล็กใหญ่มาเล่าเป็นภาพ พร้อมตั้งชื่อที่สื่อในสิ่งที่ต้องการ ผลงานศิลปะของเขาคือการพยายามจะเลือกแต่ส่วนสำคัญใส่ลงไปเท่านั้น ส่งผลให้งานมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ รวมถึงการจัดสรรองค์ประกอบต่าง ๆ ให้พอดิบพอดีกับเรื่องราวของภาพ มีพื้นที่ให้ตีความ เปิดกว้าง ไม่ตัดสิน
9. วิชุดา ขันติจิตร
วิชุดา ขันติจิตร (เกิดปี พ.ศ. 2542) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาทัศนศิลป์ จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เธอหลงใหลในการวาดรูปตั้งแต่ยังเด็กและใช้เวลาว่างไปกับการวาดรูปเสมอ อย่างไรก็ตาม การศึกษาด้านศิลปะไม่เคยเป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน เนื่องจากเธอตั้งใจจะศึกษาทันตแพทย์ เธอจึงพยายามค้นหาคำตอบในระหว่างการศึกษาในระดับปริญญาตรีว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับเธอจริง ๆ หรือไม่ เนื่องจากมันไม่ใช่เส้นทางที่เธอตั้งใจไว้แต่แรก จนกระทั่งก่อนจบการศึกษา วิชุดาก็ได้คำตอบว่าศิลปะคือสิ่งที่เธอหลงใหลนั้นเป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้วสำหรับเธอ ตั้งแต่นั้นมา เธอจึงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเองอย่างต่อเนื่อง
ผลงานของวิชุดาเป็นภาพวาดสีน้ำมัน ทิวทัศน์กว้างไกล สงบ และไม่มีผู้คน มีลักษณะเหนือจริงและเพ้อฝัน และมักจะมีเรือกระดาษและสุนัขตัวเล็กนั่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง วิชุดาหลงใหลในการถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองที่เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เธอได้จากการอ่าน การฟัง และการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ธรรมชาติ หรือแม้แต่ความรู้สึกภายในของเธอเอง ผลงานของเธอจึงมักจะมีวัตถุหรือสิ่งของธรรมดาที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เพราะเธอเชื่อว่าหากเราไม่มองข้ามสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว การเห็นคุณค่าในเรื่องราวเหล่านั้นก็จะช่วยให้เราเห็นแง่มุมใหม่ ๆ ค้นพบเรื่องราวดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ และเข้าใจชีวิตที่นำไปสู่ความสุขที่เรียบง่าย นี่คือความตั้งใจที่เธอต้องการสื่อผ่านผลงานศิลปะของเธอ
10. Wood you mind
Wood you mind หรือ ป่าน อนิวรรต อัครสุทธิกร (เกิดปี พ.ศ. 2531) เริ่มทำงานแกะไม้ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2563 เพื่อทำงานแกะไม้และทำงานศิลปะอื่น ๆ ผลงานของเขามักจะนำเสนอแนวคิดเชิงบวกผ่านความจริงที่ว่า ‘ด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ’ เนื่องจากเห็นว่าความจริงดั่งกล่าวเป็นเรื่องงดงามและสะท้อนให้เราใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุข ลักษณะงานของเขาจึงผสมผสานความไร้เดียงสาและความฉับพลัน เขามักได้รับแรงบันดาลมาจากสิ่งธรรมดาต่าง ๆ รอบตัวที่นำมาตัดทอนหรือเติมแต่งให้เกิดความรู้สึกอันดี
Wood you mind มีผลงานนิทรรศการที่ถูกจัดแสดงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ นิทรรศการเดี่ยว “Chasing Rainbow” (พ.ศ. 2566) ที่ Yidi Art ในฮ่องกง, นิทรรศการเดี่ยว “Impefection” (พ.ศ. 2566) ที่ MeArt Gallery ประเทศไทย, นิทรรศการกลุ่ม “Cross Encounter” (พ.ศ. 2567) ที่ 333Gallery ประเทศไทย, นิทรรศการเดี่ยว “Rainbow Season” (พ.ศ. 2567) ที่ All About Art ประเทศสิงคโปร์ และนิทรรศการเดี่ยว “Whimsical Wonderland” (พ.ศ. 2567) ที่ Yidi Art ที่จัดขึ้นในฮ่องกง โดยปัจจุบัน Wood you mind ก็ได้กลับมาทำงานศิลปะอยู่ที่ประเทศไทย
ย้อนกลับไปสู่สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ ที่ ๆ ทุกเหตุการณ์จะย้อนกลับมาเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานไปด้วยกันในนิทรรศการ “ที่ ๆ เคยมีเธอ” (Like You Never Left)
เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 9 มีนาคม 2568 ที่ RCB Galleria 4 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF RIVERCITY BANGKOK
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
