‘แก้ว’ พาเที่ยวตามรอยบุพเพสันนิวาส เที่ยวสนุก ได้ความรู้ ไปกับแหล่งวัฒนธรรมไทย
อยู่กับโคขวิด เอ๋ยไม่ใช่ โควิด-19 กันมาหลายเดือน วันนี้ ‘แก้ว’ พาเที่ยว จะพาทุกคนไปเที่ยวหนีโควิด กันที่ “ทุ่งดอกบัวแดง บ้านคลองทราย” “วัดไชยวัฒนาราม” และ ”ประตูแห่งกาลเวลา” ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พี่กุ้งบอกว่า “เราไปตามรอยบุพเพสันนิวาสกัน” อะไรคือ “บุพเพสันนิวาส” เราก็ไม่รู้รู้แต่ว่า “ได้เที่ยว” หลังจากอยู่บ้านมาเป็นเดือนก็ “โอเค”
‘แก้ว’ พาเที่ยว “ทุ่งดอกบัวแดง” ที่ บ้านคลองทราย
คณะของเราออกเดินทางแต่เช้า พี่กุ้งบอกว่าก่อนไปวัดไชยฯ เราจะแวะไปชมทุ่งดอกบัวแดงที่ บ้านคลองทราย ที่ห่างจากบ้านเราย่านรังสิต ประมาณชั่วโมงเศษ โดยวิ่งรถไปตามเส้นทางถนนพหลโยธินมุ่งหน้าออกไปอยุธยา บ้านคลองทราย จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และถึงก่อนที่จะไปถึงวัดไชยฯ ที่อยู่ในเขตคูเมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นั่งรถไปยังไม่ทันหลับ ก็ถึง “ทุ่งดอกบัวแดง” พี่กุ้งบอกว่าเราต้องมาถึงก่อนเวลา 10.00 น. เพราะดอกบัวแดงที่ทุ่งนี้จะบานตั้งแต่เช้าและหุบในช่วงเวลา 10.00 น. ถ้ามาสายก็จะไม่ทันเห็นดอกบัวบาน พอมาถึง ก็สมดังใจ เพราะดอกบัวแดงเต็มท้องทุ่ง บรรยากาศช่วงเช้ากำลังสบาย พอไปถึงเราก็เดินไปชมดอกบัวแดง และนั่งเรือออกไปชมดอกบัวใกล้ๆ แบบชิลล์ๆ (อันนี้แก้วก็มีลุ้น กลัวตกน้ำต้องเกาะขอบเรือแน่นเลยทีเดียว) พี่กุ้งบอกเราไม่ต้องไปไกลถึงอุดรธานี เราก็ได้ชื่นชมดอกไม้สวยๆ กันได้ แถมฟรี ไม่เสียตังก์ค่าเข้าชม สายชิล สายแชะ ก็ถ่ายรูปกันได้ตามสะดวก แถมมีขนมและของกินขาย แบบวิถีชุมชนเพียบ
ชม “พระปรางค์ที่วัดไชยฯ”
เดินชม “ทุ่งดอกบัวแดง” ได้สักพัก คณะเราก็ไปต่อตามเป้าหมายที่จะตามรอยละครดัง “บุพเพสันนิวาส” เข้าสู่คูเมืองอยุธยา เพื่อเยี่ยมชม วัดไชยวัฒนาราม วัดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2173 หรือราว 390 ปี
บางตำราระบุว่าพระเจ้าปราสาททอง สร้างขึ้นมาบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระราชมารดา ขณะที่ตำราที่เขียนโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวก โดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อตำราไหน แต่ที่แน่ๆ พระปรางค์ที่วัดไชยฯ มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับพระปรางค์ในรูปแบบของเขมร เพราะพี่กุ้งบอกว่า คล้ายๆ กับปราสาทนครวัด ที่ประเทศกัมพูชา ทีพี่กุ้งเคยไป
พอมาถึงวัดไชยฯ ตอนแรกเราก็ลุ้นอยู่ว่าเราจะเข้าได้ไหม แต่พอเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลวัดพี่เขาใจดีบอกว่า หมาอย่างแก้วเข้าได้ แต่ก็ต้องดูแลไม่ให้ไปทิ้งทุนในวัด และต้องระวังหมาเจ้าถิ่น อย่าไปทำซ่าส์ (อันนี้พี่กุ้งบอก แหม่แก้วเรียบร้อยจะตายไม่เคยซ่าส์ ถ้าไม่จำเป็น) “แก้ว” เลยเดินผ่านฉลุยเข้าไปชมพระปรางค์วัดไชยฯ อย่างสบายๆๆ
พระปรางค์วัดไชยฯ มีรูปทรงคล้ายพระปรางค์ที่ปราสาทนครวัด และมีระเบียงคตล้อมรอบ และมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ตั้งอยู่รายรอบองค์พระปรางค์ถึง 120 องค์ เป็นเสมือนกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ และตามระเบียงคตตรงทิศทั้งแปด สร้างเมรุทิศ และเมรุมุม โดยรอบพระปรางค์ใหญ่ ภายในเมรุทุกองค์ประดิษฐาน พระพุทธรูป ภายในซุ้มเรือนแก้วล้วนลงรักปิดทอง ฝาเพดานทำด้วยไม้ประดับลวดลายลงรักปิดทองเช่นกัน
นอกจากพระปรางค์แล้ว ยังมีพระอุโบสถ สร้างอยู่ด้านหน้ากำแพงเมรุทิศเมรุราย นอกระเบียงคต แต่ที่เราเห็นตอนนี้เหลือแต่ฐาน ไม่เห็นพระอุโบสถแล้ว
ความงามของวัดไชยฯ นอกจากองค์พระปรางค์ที่สวยงามแล้ว บรรยากาศโดยรอบพระปรางค์ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ยิ่งทำให้บรรยากาศของวัดสวยงามสมกับที่ได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนจริงๆ แก้วได้มีโอกาสแชะรูปตามมุมต่างๆ แบบสมใจอยาก ที่ไม่ได้ออกมาจากบ้านนานแล้วอย่างเมามันส์
‘แก้ว’ พาเที่ยว “ประตูแห่งกาลเวลา”
เมื่อมาถึงอยุธยาทั้งทีจะมาวัดไชยฯ แห่งเดียวก็ใช่ที พี่กุ้งบอกว่าเราลองไปย้อนเวลากันที่ประตูกาลเวลาที่วัดพระงาม ที่ห่างจากวัดไชยฯ โดยวิ่งไปในเส้นคูเมืองให้พี่กูเกิลนำทางไปสู่วัดพระงาม เราก็ได้เห็นซุ้มประตูเก่าๆ ที่มีต้นไทรขึ้นพันรอบซุ้มประตูให้บรรยากาศเหมือนกำลังจะก้าวข้ามประตูไปสู่อีกห้วงเวลาหนึ่งได้อย่างน่าสนใจ
พี่กุ้งบอกว่าถ้าจะให้ได้บรรยากาศต้องมาตอนเย็นตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก เพราะพระอาทิตย์จะตกลอดช่องซุ้มประตูเลยทีเดียวถือเป็นจุดไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่ แต่บังเอิญเราต้องรีบมารีบไปกลัวติดเคอร์ฟิว เลยมาถึงช่วงบ่ายๆ แต่ขนาดมาช่วงบ่ายยังได้บรรยากาศ เมื่อผ่านซุ้มประตูกาลเวลาไปแล้ว ก็จะพบกับเจดีย์แปดเหลี่ยมที่เป็นประธานของวัดโดยมีข้อสันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่เสียกรุงฯ ครั้งที่สองในปี 2310 อย่างไรก็ตามวัดยังมีร่องรอยของการบูรณปฏิสังขรณ์ให้เห็นอยู่บ้าง
นั่งรถวนอยู่รอบคูเมืองทั้งวันทำเอาเหนื่อยแต่ก็สนุก เพราะเราได้เปิดหูเปิดตาหลังจากที่อยู่ในบ้านมาทั้งเดือน เวลาขับรถออกมาพี่กุ้งก็ใส่หน้ากาก เวลาไปเที่ยวก็ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันโควิด-19 (แก้วไม่ได้ใส่เพราะหายใจไม่ถนัด) พี่กุ้งบอกว่า เราเที่ยวได้แต่เราต้องเว้นระยะห่าง ไม่เข้าใกล้ใครในระยะ 2 เมตร เราก็จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ เรียกว่า “เที่ยวแบบมีระยะห่าง ห่างไกลโควิด และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน” พี่กุ้งบอกว่า เราต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อส่วนร่วม สำหรับ “แก้ว” ยังไงก็ได้ขอให้ได้เที่ยวพอ แล้วรอบหน้าไปเที่ยวไหนติดตามกันรับรองว่า ฟินและชิลล์ แน่นอนคะ
ประวัติของแก้ว
“แก้ว” เป็นหมาที่หลงมาจากไหนไม่รู้ มาอยู่ที่บ้านแล้วไม่ยอมไปไหน เลยไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ แต่นางชอบเดินทาง ทุกครั้งทีเปิดประตูรถนางจะกระโดดขึ้นไปนั่ง และชอบไปทุกที่ที่พาไป ไม่เห่าไม่ซน แต่ไม่ชอบแมว (ไม่รู้โกรธกันมาแต่ชาติปางไหน) เจอแมวทีไรสติหลุดทุกที
Writer and Photos : Somluck Srimalee สมลักษณ์ ศรีมาลี อดีตผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ชอบเดินทางและท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ เพราะการเดินทางคือการเรียนรู้
สามารถติดตามคอนเท็นต์ การท่องเที่ยว อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่
- ภูเก็ต ที่โอบล้อมด้วยทะเลอันดามัน เยือนหาดแหลมพันวา ที่ My Beach Resort
- คาเฟ่วาเลนไทน์ เอาใจสายหวาน! ปักหมุด 6 คาเฟ่ถ่ายรูปสวยใจกลางกรุงเทพ