ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง เพียงแค่เลือกส่วนผสมของสกินแคร์หรือเวชสำอางที่ช่วย ลดปัญหาสิวและรูขุมขนกว้างได้อย่างตรงจุด
ผิวมันและรูขุมขนกว้าง คือ สองปัญหาผิวยอดนิยมที่มักกวนใจสาวๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะนอกจากความมันจะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตันแล้ว ยังส่งผลให้รูขุมขนของเรากว้างได้อีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับต้นตอของการเกิดสิว พร้อมรวบรวม 4 ขั้นตอนการดูแลใบหน้าเพื่อ ลดปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง โดยไม่ต้องพึ่งการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์
ทำไมหน้ามันทำให้เป็นสิว และทำไมความมันถึงทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ?
ก่อนอื่นเลยรูขุมขนกว้างอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ การที่ต่อมไขมันบริเวณใต้รูขุมขนผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนของเราขยายเพื่อที่จะระบายน้ำมันออก และนี่ล่ะยังเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ สิวอุดตันอีกด้วย และอีกหนึ่งสาเหตุ คือ ปริมาณของคอลลาเจนในชั้นผิวที่ช่วยในการพยุงรูขุมขนนั้นลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
ดังนั้นหลักการกู้ผิวสวยครั้งนี้ เราจะเน้นไปที่การสร้างความแข็งแรงให้กำแพงผิวและลดความมันบนใบหน้า ด้วย 4 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ ทำความสะอาด บำรุงด้วยเซรั่ม เสริมชั้นผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และปิดท้ายด้วยครีมกันแดด ซึ่งเราแนะนำว่าควรเลือกใช้เพียงขั้นตอนละหนึ่งชิ้นเท่านั้น เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนเนื่องจากการใช้สกินแคร์ที่มากเกินจำเป็น
STEP 1 : Cleanser
ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน พร้อมกำจัดความมันส่วนเกิน
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าคุณควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนที่มีผิวมัน ( Oily Skin ) หรือผิวแผ้ง่าย ( Sensitive Skin ) ด้วยแล้ว ควรต้องใส่ใจเป็นพิเศษ สำหรับผิวมันอาจเลือกใช้เคลนเซอร์ ( Cleanser ) เนื้อเจลที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่สามารถช่วยลดความมันบนผิวหนังได้ ร่วมกับ เซราไมต์ ( Ceramides ) และกรดไฮยาลูรอน ( Hyaluronic Acid ) ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นของชั้นผิว แต่หากคุณมีสิวอุดตันอาจเลือกใช้เคลนเซอร์ที่มีกรดซาลิไซลิค ( Salicylic Acid ) เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตันของรูขุมขน ลดปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้ขณะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- Purity Made Simple One-Step Facial Cleanser จาก Philosophy ( ราคา 950 บาท )
- Foaming facial cleanser จาก Cerave ( ราคา 620 บาท )
- Effaclar Purifying Foaming Gel จาก La Roche-Posay ( ราคา 1,100 บาท )
STEP 2 : Serum
เพิ่มการบำรุงอย่างตรงจุด ลดปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง
หากคุณต้องการฟื้นฟูและแก้ปัญหาผิวอย่างล้ำลึก เซรั่ม คือหนึ่งในตัวช่วยที่ดี เพราะนอกจากจะมีเนื้อสัมผัสบางเบาแล้ว ยังสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการกะชับรูชุมขนอาจเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก ( Glycolic Acid ) และกรดแลคติค ( Lactic Acid ) จากตระกูลกรด AHA ( Alpha Hydroxy Acids ) เพราะกรดทั้งสองชนิดนี้สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการอุดตันในช่องรูขุมขนได้ แต่อย่างไรก็ดีอย่าลืมใช้ควบคู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม
- T.L.C. Framboos™ Glycolic Night Serum จาก Drunk Elephant ( ราคา 3,470 บาท )
- Effaclar Pore-Refining Serum with Glycolic Acid จาก La Roche-Posay ( ราคา 1,300 บาท )
- Poreless Solution Pore Minimizer Serum จาก Eucerin ( ราคา 1,100 บาท )
STEP 3: Moisturizer
เสริมชั้นผิวมอบความแข็งแรง พร้อมมอบความชุ่มชื่น
รู้หรือไม่ว่า การอักเสบของสิวอาจทำลายกำแพงผิว หรือ skin barrier ของคุณได้ ดังนั้นควรเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นผิวโดยการเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ เซราไมต์ ( Ceramide ) คอเลสเตอรอล ( Cholesterol ) และกรดไขมัน ( Fatty Acid ) ที่เป็นส่วนประกอบของกำแพงผิว ช่วยผนึกกำแพงของชั้นผิวและกักเก็บความชุมชื่น ไม่ให้น้ำในผิวระเหยออก พร้อมเสริมชั้นผิวของคุณให้แข็งแรงในเวลาเดียวกัน แต่ก็ต้องระวังสักนิดหากคุณมีผิวมันและผิวแผ้ง่ายควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบา อย่างเนื้อเจลที่สามารถซึมซาบได้ดี ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อออยล์เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวอุดตันได้
- Sebium Pore Refiner จาก Bioderma ( ราคา 890 บาท )
- Skin Barrier + Prebiotic Serum in Cream จาก FYNE ( ราคา 1,390 บาท )
- Daily Moisture Therapy Cream จาก Physiogel ( ราคา 995 บาท )
Step 4: Sunscreen
ปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมสร้างเกราะเสริมความแข็งแรงให้ผิวในเวลากลางวัน
โดยทั่วไปแล้วหากผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ที่คุณใช้อยู่มีส่วนผสมของกลุ่ม AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ( กรดที่ได้จากนมและน้ำตาลที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ) อาทิ กรดไกลโคลิก ( Glycolic Acid )กรดแลคติค ( Lactic Acid ) หรือกรดซิตริก ( Citric Acid ) ถึงแม้ว่า AHA สามารถใช้กับสภาพผิวบอบบางแผ้ง่าย แต่สารกลุ่มนี้อาจส่งผลให้ผิวบางได้เช่นกัน ดังนั้นเราขอแนะนำว่าควรใช้ร่วมกับครีมกันแดด ซึ่งหากกลัวจะหน้ามันเยิ้ม ปัจจุบันก็มีครีมกันหลากหลายสูตรที่ผลิตขึ้นเพื่อคนผิวมันรวมทั้งผิวผสมโดยเฉพาะ
- Hydra Vizor Invisible Moisturizer Broad Spectrum SPF 30 Sunscreen จาก Fenty Skin ( ราคา 1,350 บาท )
- Nivea Sun Triple Protect Acne Oil Control จาก Nivea ( ราคา 389 บาท )
- 360 Fluid Cream SPF50+ PA++++ จาก Heliocare ( ราคา 1,450 บาท )
CREDITS:
COURTESY OF THE BRANDS
GRAPHIC: MAS KIATSERMSAKUL
สามารถอ่านคอนเทนท์ Lifestyle ที่น่าสนใจได้ที่
- Dior Make-up สำหรับโชว์ Dior Pre-Fall 2021
- อัพเดทเทรนด์สโมคกี้อายจาก Dior Make-up และโชว์ Dior Fall-Winter 2021-22
- JISOO BLACKPINK กับบทบาทใหม่ในฐานะ Global Ambassador แบรนด์ระดับโลก DIOR
- Dior Makeup กับคีย์ลุคผิวสวยละมุนเปลือกตาสีทองจากโชว์กูตูร์
- DIOR SPRING-SUMMER 2021 HAUTE COUTURE COLLECTION
- Summer Mood Board: รวมเทรนด์แฟชั่นรับหน้าร้อนริมทะเล