รีวิว Black Widow : ลูกสาว พี่สาว อเวนเจอร์ : ความเป็นมนุษย์ที่เปี่ยมล้นของนาตาชา โรมานอฟ และการกล่าวอำลา ในภาพยนตร์ลำดับที่ 24 จากบ้านมาร์เวล
เนื้อหาในบทความ รีวิว นี้อาจมีการสปอยส่วนสำคัญของภาพยนตร์ Black Widow
เชื่อว่าวินาทีนี้ พี่น้องชาวไทยหลายๆ คนคงได้มีโอกาสสัมผัสกับเรื่องราวส่งท้ายของสายลับสาว นาตาชา โรมานอฟหรือ Black Widow กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในภาพยนตร์เดี่ยวเรื่องแรกของเธอในชื่อเดียวกัน เช่นเดียวกับ Padthai.co ที่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วถึงสองรอบทั้งในโรงภาพยนตร์และบน Disney+ ไปเป็นที่เรียบร้อย และรู้สึกตื้นตันใจเสียจนอยากแบ่งปันความรู้สึกท่วมท้นนี้ให้กับผู้อ่านได้รับรู้ผ่านรีวิวนี้ เผื่อใครที่ยังมีเวลาว่างอยู่ อาจจะอยากไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
แบล็ค วิโดว์เป็นภาพยนตร์ในจักรวาลภาพยนตร์มาเวล (Marvel Cinematic Universe – MCU) เรื่องแรกในรอบปี และยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่จะเปิดเรื่องราวใน Phase ที่ 4 ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลอย่างเป็นทางการ โดยจะเล่าเรื่องราวหลังจากกัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก (Captain America: Civil War) ที่เหล่าสมาชิกของอเวนเจอร์สพบกับความขัดแย้งด้วยความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน โดยนักแสดงนำหลักก็ยังคงเป็นสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน (Scarlett Johansson) ผู้เป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวอเวนเจอร์มานานร่วม 10 ปี ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
เรื่องราวในแบล็ค วิโดว์ เล่าย้อนไปถึงช่วงวัยที่แนท หรือนาตาชา โรมานอฟยังคงเป็นเด็กและถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจแฝงตัวของซูเปอร์โซลเยอร์ ฝั่งรัสเซียอย่างเรดการ์เดี้ยน (รับบทโดย เดวิด ฮาร์เบอร์ (David Harbour) นายอำเภอจิม ฮอปเปอร์ แห่งซีรีส์ไซไฟชื่อดัง Stranger Things)
ครอบครัวอุปโลกน์อันเป็นความทรงจำสั้นๆ ในช่วงวัยเด็กของแนทถูกเล่าเป็นครั้งแรกบนจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล โดยหนังจะย้อนเวลาพาเรากลับไปดูช่วงเวลาเก่าๆ ในชีวิตของเธอก่อนที่เธอจะถูกส่งไปฝึกที่หน่วย เรดรูม (Red Room) เพื่อเป็นสายลับในโปรเจกต์วิโดว์ (Widow)
และยังกล่าวอารัมภบทไปถึงน้องสาวต่างสายเลือดอย่างเยเลนา เบโลวา (รับบทโดย ฟลอเรนซ์ พิวจ์ (Florence Pugh) ที่โด่งดังจากภาพยนตร์สยองขวัญพลอตแหวกแนว Midsommar) ซึ่งก็ถูกฝึกมาในโปรเจกต์วิโดว์ เช่นเดียวกันกับเธอ
อาจจะด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อหา เพราะหนังเลือกเล่าช่วงเวลาที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาค Civil War และ Infinity War ซึ่งทุกคนทราบกันดีว่าเป็นช่วงเวลาที่เหล่าอเวนเจอร์ ถูกทางการจำกัดสิทธิ์โดยการออกสนธิสัญญาโซโคเวีย เพื่อควบคุมการทำงาน หลังจากนาตาชาตัดสินใจไปช่วยเหลือกัปตันอเมริกาในตอนท้ายของ Civil War ทำให้นาตาชา ต้องหนีจากการตามตัวของทางการสหรัฐที่ตั้งข้อกล่าวหาว่าเธอเป็นอาชญากรจากการละเมิดสนธิสัญญานี้
ช่วงเวลาแห่งการโยกย้ายและหลบหนีนี้เองที่นาตาชาโดนคนจากเรดรูม ตามล่าและพยายามจะโจมตี ซึ่งนั่นบีบให้เธอต้องกลับไปเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีตที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด หลังชมจบแฟนๆ มาร์เวลหลายคนจึงลงความเห็นพ้องกันว่า เนื้อหาในภาคนี้ค่อนข้างจะมีความส่วนตัว เพราะประเด็นหลักที่ภาพยนตร์พยายามจะชูขึ้นมาอย่างเด่นชัด คือเรื่องความสัมพันธ์แบบครอบครัว ซึ่งเป็นปมในใจของทั้งนาตาชาและเยเลนามาโดยตลอด
แต่มาร์เวล ก็ยังไม่ลืมที่จะเอาใจแฟนภาพยนตร์ที่คาดหวังฉากบู๊ ด้วยการใส่ฉากบู๊สุดอลังการแทรกไว้ตลอดทั้งเรื่อง รวมทั้งตัวละครทาสก์มาสเตอร์ นักฆ่าผู้มีทักษะการต่อสู้ชั้นเลิศและมีความสามารถในการลอกเลียนทักษะการต่อสู้ของศัตรูตรงหน้าได้ ทำให้การต่อสู้กับทาสก์มาสเตอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย
เรียกได้ว่าใครที่โหยหาสเปเชียลเอฟเฟ็กซ์ และฉากบู๊แบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม การได้ชมแบล็ค วิโดว์ในโรงภาพยนตร์ ก็ช่วยเยียวยาความรู้สึกโหยหาการชมภาพยนตร์ในโรงแบบจัดเต็มทุกประสาทสัมผัสไปได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าฉากไล่ล่าในเมือง หรือฉากการถล่มเรดรูมที่เป็นไฮไลต์ของเรื่อง ก็ดุเดือดถึงใจ
แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะพาผู้ชมเข้าไปรู้จักกับตัวตนลึกๆ ของนาตาชา ทั้งความอ่อนแอและเปราะบางที่เธอซุกซ่อนไว้ รวมถึงฉากที่แสดงถึงความอ่อนโยนและความเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจของเธอก็ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และดึงให้ผู้ชมซาบซึ้งไปกับคำว่า ลูกสาว พี่สาว อเวนเจอร์ ที่ปรากฏในฉาก End Credit ได้จริงๆ
นอกจากนั้นเรื่องราวในส่วนของ End Credit ซึ่งเป็นกิมมิกสำคัญของภาพยนตร์ในจักรวาลของมาร์เวล ที่มักจะบอกใบ้เรื่องราวของภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องต่อไปในแฟรนไชนส์ ก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเดาได้ไม่ยากว่า ในซีรีส์ลำดับถัดไปบนดิสนีย์พลัส อย่าง Hawkeye (2021) ซึ่งมีกำหนดฉายในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เราจะได้เห็นการปรากฏตัวของเยเลนาด้วย
เพราะหากอ้างอิงจากต้นฉบับในฉบับการ์ตูนคอมมิค ตัวละครของเยเลนาจะเข้ามารับช่วงการเป็นแบล็ค วิโดว์ ในรุ่นที่สองต่อจากนาตาชา และการปูบทบาทของเยเลนาในภาพยนตร์แบล็ค วิโดว์ภาคนี้ รวมทั้งมุกตลกที่เยเลนากล่าวแซวนาตาชาเรื่องการเป็นซูเปอร์ฮีโร่สุดเท่ รวมถึงการล้อเลียนท่าโพสสุดไอคอนิกของนาตาชา ก็เหมือนจะเป็นคำใบ้เรื่องราวที่กำลังจะได้เห็นในจักรวาลมาร์เวลเรื่องต่อไปได้ประมาณหนึ่ง
นอกจากความน่าทึ่งของภาพยนตร์ และการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ที่มาเติมเต็มเรื่องราวในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลให้สมบูรณ์ ดูเหมือนว่าในตอนนี้คดีความและการฟ้องร้องระหว่างสการ์เลตต์ โจแฮนส์สันและดิสนีย์ ที่เราเคยได้เสนอข่าวไว้ ก็จะสิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน โดยโจแฮนส์สัน ถอนฟ้องหลังจากมีการไกล่เกลี่ยเรื่องค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลนอกศาล เรียกว่าจบแบบแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย
แบล็ค วิโดว์เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 24 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่นับเป็นบทส่งท้าย นาตาชา โรมานอฟอดีตมือสังหาร สายลับของหน่วยชีลด์และสมาชิกทีมอเวนเจอร์ส ซึ่งมีประกาศและค่อนข้างจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่านี่จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอ
ใครที่อ่านรีวิวแล้วอยากจะไปส่งท้ายและอำลาสายลับสาวคนนี้ ก็สามารถชม Black Widow ได้แล้ววันนี้ทั้งในโรงภาพยนตร์และบนแอปพลิเคชั่น Disney+ Hotstar Thailand ทั้งแบบซับไตเติ้ลและแบบเสียงพากย์ภาษาไทย
